ss

31 ต.ค. 2554

FUJI BARRACUDA คอลเลกชั่นใหม่จากญี่ปุ่น

|0 ความคิดเห็น
FUJI BARRACUDA  คอลเลกชั่นใหม่จากญี่ปุ่น

ถ้าจะกล่าวถึงวัสดุที่นำมาผลิตเฟรมจักรยานซึ่งเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้คงหนีไม่พ้นวัสดุยอดฮิตอย่างเจ้าคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติทั้งเรื่องความแข็งแกร่งและความเบา จึงเป็นที่นิยมนำมาผลิตเฟรมจักรยานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็มีผู้ที่ชื่นชอบเฟรมที่ทำจากอลูมิเนียมอยู่จำนวนหนึ่ง และปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก ก็มีผู้พยายามคิดค้นเฟรมอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาพอ ๆ กับเฟรมคาร์บอน

FUJI BARRACUDA เป็นคอลเลกชั่นจากญี่ปุ่น ที่ออกแบบมาเพื่อคนเอเชียโดยเฉพาะ เพราะสรีระของคนเอเชียจะไม่เหมือนคนยุโรป FUJI BARRACUDA จึงมีความเหมาะสมกับ SIZE คนเอเชีย ตัวเฟรมทำจากอลูมิเนียมคุณภาพสูงลิขสิทธิ์ของ FUJI ที่มีน้ำหนักเบาใกล้เคียงกับเฟรมคาร์บอน ตะเกียบหน้าเป็นฟูลคาร์บอน กะโหลกเป็นแบบ Press Fit ตามสมัยนิยม

และที่สำคัญเมื่อประกอบมาเป็นคันเรียบร้อยแล้ว ด้วยอะไหล่ธรรมดา ชิมาโน 105 จะมีน้ำหนักอยู่ที่  7.85 Kg. ซึ่งถือว่าเป็นน้ำหนักที่เบาใช้ได้เลยทีเดียวสำหรับตัวนี้ FUJI BARRACUDA จะเป็นทางเลือกให้คนที่ชื่นชอบเฟรมอลูมิเนียมที่มีเอกลักษณ์น้ำหนักเบาและแผงไปด้วยความแข็งแกร่งดุจภูเขาไฟฟูจิ

โปรแกรมการแข่งขันประจำเดือน ธันวาคม 2554

|0 ความคิดเห็น
โปรแกรมการแข่งขันประจำเดือน ธันวาคม 2554

วันที่
รายการแข่ง
ติดต่อสอบถาม
4 ธ.ค. 2554
ขอเชิญร่วมปั่นจักรยานเทิดพระเกียรติสู่สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ฯ ณ.ห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่
สอบถามที่ 081-6558451
4 ธ.ค. 2554
องค์การบริการส่วนตำบลแม่ปะ ร่วมกับชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแม่สอด เชิญร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ปั่นเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาครั้งที่ 2 ณ.บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยลึก ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณอุทัย 082-8873605
คุณ อภิเดช 081-4742183
18 ธ.ค. 2554
เชิญร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาที่สอยดาวครั้งที่ 10 (จันทบุรี)
สอบถามเพิ่มเติม 039-381071
18 ธ.ค. 2554
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.แม่เมาะ จ. ลำปาง ขอเชิญนักแข่งจักรยานทุกท่าน เข้าร่วมแข่งขัน แม่เมาะเสือภูเขาครั้งที่12 ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554  แข่งฟรีทุกรุ่น มีถ้วยรางวัล แจกเสื้อที่ระลึกสำหรับผู้เข้าเส้นชัยทุกท่าน
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 
- กฟผ. แม่เมาะ จ.ลำปาง : แผนกประชาสัมพันธ์ เหมืองแม่เมาะ 
โทร. 054 -254-051, 054-254-054 , 054-254-930 
- กฟผ. แม่เมาะ จ.ลำปาง : แผนกประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ 
โทร. 054 –252-730, 054-252-739 
- ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 
คุณ ยทธนา ศรีหิรัญ โทร. 054 -253330, 081-706-7230 
คุณ นิพนธ์ แขนงแก้ว โทร. 054-253212, 081-7243-410 
คุณ ณัฐชัย ศรีธรรมรักษ์ โทร. 054-252440, 081-0317-267 
คุณ โสภณ วิจิตรโสภา โทร. 054-254532, 081-7658-886 

โปรแกรมการแข่งขันประจำเดือน พฤศจิกายน 2554

|0 ความคิดเห็น

โปรแกรมการแข่งขันประจำเดือน พฤศจิกายน 2554

วันที่
รายการแข่ง
ติดต่อสอบถาม
6  พ.ย. 2554
รายการ “แข่งขันจักรยานเสือภูเขา(ครอสคันทรี)หลังสวนเมาเท่นไบค์ สนามอวยชัย 3 อ.หลังสวน จ.ชุมพร
คุณสุรพล  สุวัฒนานุกร 081-9700406, 077-545050
13 พ.ย. 2554
การแข่งขันจักรยานกว๊านพะเยาเสือทางเรียบ ครั้งที่ 1 เปิดงานเทศกาลลอยกระทงเมืองพะเยา จ.พะเยา
สอบถาม สว่าง พะเยาไบค์คลับ 089-7007765
20 พ.ย. 2554
จังหวัดกระบี่และหอการค้าจังหวัดกระบี่ร่วมกับทีมงานเสือกระบี่ จัดการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาครั้งที่ 2 KRABI ROMANTIC ROAD MOUNTAIN BIKE 2011 จ.กระบี่
คุณพรเทพ 089-5205995, อ.สายัณห์ 084-0610823
คุณพนม 081-4170164



20 พ.ย. 2554
ขอเชิญร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาทางเรียบ ลำนารายณ์ร่วมใจ เทิดไท้องค์ราชัน ครั้งที่ 6  โดยเทศบาลตำบลลำนารายณ์
สอบถาม เทศบาลลำนารายณ์ 036-461758-9
20 พ.ย. 2554
การแข่งขันจักรยานเสือภูเขารายการน้ำใจไทย สู้ภัยน้ำท่วม
โดยเทศบาลตำบลสันทรายหลวง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
สอบถาม คุณอาร์ม 081-9937001
หมวดตุ๊ 087-1922939

20 พ.ย. 2554 
ขอเชิญร่วมการแข่งขันจักรยานเสือภูเขา ''ปั่นอาบน้ำแร่ที่บางริ้น'' งานมหกรรมศึกแห่งสายน้ำแข่งเรือยาวขึ้นโขนชิงธง จัดโดย เทศบาลตำบลบางริ้น ร่วมกับ ชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดระนอง

ติดต่อสอบถามรายระเอียด 

เทศบาลบางริ้น 077-835-152
ชมรมกีฬาจักรยานจังหวัดระนอง...077-822-712
27 พ.ย. 2554
จักรยานเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กาญจนบุรีเสือภูเขาครั้งที่ 2 เลื่อนจากวันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน 2554 เป็นวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2554 ชิงถ้วย และเงินรางวัลรวม 10,000 บาท
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 081-1997717

27 ต.ค. 2554

สถานการณ์จักรยานทั่วโลก

|0 ความคิดเห็น

สถานการณ์จักรยานทั่วโลก


ประเทศ แคนาดา
Ø  เมืองมอนทรีอัล : เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศทุ่มงบประมาณ 134 ล้านดอลลาร์สร้างทางจักรยาน ราวจอดและระบบคมนาคมที่เอื้อต่อการใช้จักรยาน มีการคิดค้นระบบ BIXI (มาจาก Bicycle+Taxi) ซึ่งเป็นระบบบริการให้เช่าจักรยานกว่า 2,400 คัน ตามจุดสำคัญใจกลางเมือง

ประเทศ สหรัฐอเมริกา
Ø  ประชาชนเลือกใช้จักรยานในการสัญจรคิดเป็นร้อยละ 1 จากสัดส่วนการเดินทางโดยพาหนะประเภทต่าง ๆ
Ø  รัฐบาลกลางจัดสรรงบประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ลงทุนในโครงการพัฒนาทางจักรยานและทางเท้า ระหว่างปี 1998-2003
Ø  มีการเปลี่ยนถนน 4 เลน ในนครนิวยอร์กเป็น 3 เลน เพื่อเพิ่มทางจักรยานเข้าไป 1 เลน และเพิ่มทางเดินเท้า
Ø  เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน มีทางจักรยานกว่า 418 กิโลเมตร เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย มีการจำหน่ายจักรยานสงเคราะห์ราคาถูก


ประเทศ โคลอมเบีย
Ø  เมืองโบโกตา  ใช้เวลา 5 ปีในการสร้างทางจักรยาน 300 กิโลเมตร
Ø  ประชาชนใช้จักรยานเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.2 ในปี 2000 เป็นร้อยละ 4 ในปี 2007
Ø  ทุกสัปดาห์จะมีการปิดถนนสายต่าง ๆ รวมระยะทาง 113 กิโลเมตรเพื่อให้ผู้คนได้เดิน ขี่จักรยาน และพักผ่อน
Ø  ประชาชนมีมติไม่ให้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่งในชั่วโมงเร่งด่วน

ประเทศบราซิล
Ø  เมืองกูรีตีบา รัฐปารานา  พยายามส่งเสริมให้ชาวเมืองหันมาใช้จักรยานเป็นเวลา 40 ปีแล้ว โดยสร้างทางจักรยานรวม 150 กิโลเมตร และผู้ว่าราชการเมืองมีนโยบายแจกจ่ายจักรยานแก่คนยากจน

ประเทศ เดนมาร์ก

Ø  มีจักรยานโดยเฉลี่ย 8 คันต่อ 10 ครอบครัว (ร้อยละ 0.83)
Ø  ประชาชนเลือกใช้จักรยานคิดเป็นร้อยละ 18 จากสัดส่วนการเดินทางประเภทต่าง ๆ
Ø  กรุงโคเปนเฮเกน  สัดส่วนการเดินทางโดยจักรยานสูงถึงร้อยละ 36 รัฐบาลพยายามผลักดันให้เมืองหลวงแห่งนี้เป็นเมืองจักรยานอันดับ 1 ของโลก ด้วยการสร้างกระแสที่เรียกว่า “Copenhagenize” อันหมายถึงการทำให้เป็นเมืองที่มีวัฒนธรรมจักรยานแบบโคเปนเฮเกน
Ø  มีการกำหนดมาตรฐานทางจักรยาน มีทางหลวงจักรยาน เชื่อมกันเป็นเครือข่ายทั่วประเทศ

ประเทศ เยอรมนี
Ø  มีจักรยานโดยเฉลี่ย 7 คันต่อ 10 ครอบครัว (ร้อยละ 0.77)
Ø  ประชาชนเลือกใช้จักรยานคิดเป็นร้อยละ 10 จากสัดส่วนการเดินทางประเภทต่าง ๆ
Ø  นักเรียนเกรด 3-4 (ป.3-.4) เรียนวิชาขี่จักรยานและต้องสอบให้ผ่าน
Ø  ทุกวันอาทิตย์ของเดือนสิงหาคมเป็น “วันปลอดรถยนต์” บนเส้นทาง Car-free German Wine Route ระยะทาง 80 กิโลเมตรทอดยาวผ่านหมู่บ้านท้องถิ่นหลายแห่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตไวน์


ประเทศ เนเธอร์แลนด์
Ø  มีจักรยานโดยเฉลี่ยครอบครัวละ 1 คัน (ร้อยละ 1.1)
Ø  กรุงอัมสเตอร์ดัม มีจักรยานราว 7 แสนคัน
Ø  ประชาชนใช้จักรยานคิดเป็นร้อยละ 27 จากสัดส่วนการเดินทางประเภทต่าง ๆ นับเป็นอัตราสูงที่สุดในโลก
กรุงลอนดอน
Ø  การเดินทางในเขตใจกลางเมืองประชาชนใช้จักรยานและเดินถึงร้อยละ 75 ใช้ระบบขนส่งมวลชนร้อยละ 20 และรถยนต์ร้อยละ 5
Ø  มีการเก็บค่าจราจรติดขัด (London Congestion Charge:LCC) โดยเก็บเป็นรายวันต่อรถยนต์ 1 คันที่เดินทางในโซนกลางเมือง ในช่วงกลางวันวันทำงาน

ประเทศจีน
Ø  วางแผนสร้างทางจักรยานในรัศมี 50 กิโลเมตรรอบเมืองโดยมีเป้าหมายว่าในปี 2015 จะมีศูนย์เช่าจักรยาน 1,000 แห่ง และมีจักรยานให้เช่ากว่า 5 หมื่นคัน

กรุงปารีส
Ø  มีบริการจักรยานสาธารณะภายใต้ชื่อ Verlib โดยผู้เช่าจักรยานสามารถเช่าจักรยานจากสถานีหนึ่งแล้วขี่ไปคืนในอีกสถานีหนึ่งโดยจะมีระบบคอมพิวเตอร์ในการจัดการระบบการ ยืม – คืน หรือถ้าใครต้องการจักรยานที่มีศักยภาพสูงกว่านั้นก็สามารถหาเช่าได้ตามร้านทั่วเมือง โดยมีทางจักรยานที่มีคุณภาพเป็นเครือข่ายเกือบทั่วเมือง

ประเทศเกาหลีใต้
Ø  ส่งเสริมการใช้จักรยานตั้งแต่ปี 1990 มีแผนระดับชาติแล้ว 2 ฉบับ
Ø  ประชาชนใช้จักรยานคิดเป็นร้อยละ 1.2 จากสัดส่วนการเดินทางประเภทต่าง ๆ
Ø  มีทางจักรยาน 1,970 กิโลเมตร แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ เส้นทางระดับชาติที่วิ่งรอบประเทศ เส้นทางเลียบแม่น้ำสายหลัก 4 สาย เส้นทางระดับตำบล และเส้นทางระดับภูมิภาค
Ø  ตั้งเป้าให้คนใช้จักรยานในการเดินทางถึงร้อยละ 5 ในปี 2011
Ø  ทุ่มงบประมาณ 1.2 หมื่นล้านวอน สร้างทางจักรยาน 17,600 กิโลเมตร
Ø  สนับสนุนอุตสาหกรรมจักรยานและงานรณรงค์และเตรียมงบประมาณ 5 แสนล้านวอนเพื่อการนี้

ประเทศญี่ปุ่น
Ø  กำหนดต้นทุนในการมีรถยนต์สูง อาทิ ภาษีน้ำมันสูงกว่าสหรัฐฯ 2 เท่า ค่าตรวจสภาพรถยนต์สูงถึง 2,000 ดอลลาร์ต่อปี
Ø  นายจ้างมีมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือลูกจ้างที่เดินทางโดยจักรยาน ลดเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้รถยนต์
Ø  มีระบบบริการจักรยานสาธารณะ มีฟุตบาทกว้างขวาง และมีจุดจอดจักรยานไฮเทคหลายจุดในเมือง

ประเทศออสเตรเลีย
Ø  ปี 2001 – 2006 ประชาชนขี่จักรยานไปทำงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 28
Ø  ประชาชน 1.7 ล้านคนขี่จักรยานออกกำลังกายเป็นประจำ

ประเทศไทย
Ø  จังหวัดตาก  มีการสร้างทางจักรยานบนถนนพหลโยธินในช่วงที่ผ่านตัวจังหวัด พร้อมแนวอิฐป้องกันรถยนต์
Ø  จังหวัดเลย  ที่อำเภอด่านซ้าย ไม่มีทางจักรยาน แต่เกิด “วัฒนธรรมจักรยาน” ขึ้นจากความพยายามของชาวเมือง ทำให้วันนี้มีผู้ใช้จักรยานในด่านซ้ายไม่ต่ำกว่า 400 คน และเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ
Ø  กรุงเทพฯ  ได้ชื่อว่ามีทางจักรยานในทางนิตินัยกว่า 25 เส้นทาง แต่ใช้งานได้จริงไม่ถึงครึ่งและมีโครงการจะสร้างทางจักรยานอีก 200.05 กิโลเมตรภายใน 2 ปีข้างหน้า

ปล.ฝากไว้ให้คิด
Ø  การเดินทางโดยจักรยานแทนรถยนต์ มีผลเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 170 ต้น
Ø  รถยนต์มีค่าบำรุงรักษาและจิปาถะราว 3.29 แสนบาทต่อระยะทาง 17,703 กิโลเมตร ขณะที่จักรยานมีค่าบำรุงรักษาเพียง 3,596 บาทในระยะทางที่เท่ากัน




(ขอบคุณบทความดี ๆ จาก นิตยสารสารคดี ครับ)







Salsa ตำนานจักรยานโครโมลี่ชื่อดังกว่า 20 ปี

|0 ความคิดเห็น
Salsa  VAYA จักรยานทัวร์ริ่งล้อ 26”

จักรยานทัวร์ริ่งล้อ 26” ที่พร้อมจะพาคุณผจญภัยไปได้ทุกที่เหนือขีดจำกัดทุกเส้นทาง จักรยาน Sala VAYA ตัวเฟรมทำจากท่อโครโมลี่ชนิดพิเศษ Classico CroMoly สูตรลับเฉพาะของจักรยาน Salsa นุ่มนวลให้การทรงตัวได้ดี มาพร้อมกับตะเกียบหน้าโครโมลี่ชนิดเดียวกัน ช่วงยุบเทียบเท่ากับช็อค 100 มม.

ด้วยมุมองศาของรถที่มีลักษณะเฉพาะตัวไม่กระด้าง และซับแรงกระแทกได้ดี ทำให้สามารถขี่ได้ดีในทุกพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นทางถนนทั่ว ๆ ไป (On Road) หรือทางที่เป็นดิน หิน พื้นผิวขรุขระ (Off Road) พิเศษด้วยจุดตะแกรงสำหรับขนสัมภาระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังครบถ้วนตามแบบฉบับรถทัวร์ริ่งพันธุ์แท้ ให้คุณเพลิดเพลินกับการขับขี่ได้ดี แม้ในยามที่ต้องบรรทุกสัมภาระไปด้วยก็ตาม  มีขนาดให้เลือก 2 ไซส์ คือ ไซส์ 50/52 cm.

และอยากจะแนะนำอีกรุ่นหนึ่งคือรุ่น Salsa Ala Carte

ตำนานเฟรมโครโมลี่ชื่อดังที่มีชื่อเสียงมายาวนานมากกว่า 20 ปี พร้อมกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยใช้ท่อโครโมลี่ “Kung Fu Tubing” ซึ่งเป็นท่อจากโรงงาน Sanko ผู้ผลิตท่อโครโมลี่ ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ภายใต้การออกแบบและทดสอบของทีมงาน Salsa Cycles America

ในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านเฟรมโครโมลี่ ใช้เวลามากกว่า  2 ปี เพื่อคิดค้นและพัฒนาสูตรการผลิตท่อโครโมลี่ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถือเป็นจุดเด่นของ Salsa Ala Carte 2011 โดยท่อโครโมลี่ “Kung Fu Tubing” เป็นท่อที่มีความแข็งแรงแต่สามารถรักษาน้ำหนักไว้ได้ (ทำให้น้ำหนักเบา) จากกระบวนการผลิตรีดท่อเป็น Triple-Butted จึงได้ท่อที่น้ำหนักเบาแต่คงไว้ซึ่งความแข็งแรง นุ่มนวลให้ทรงตัวได้ดี มาพร้อมกับตะเกียบ Disc Brake สีเดียวกับเฟรม โดยการทำสีแบบ Powder Dropout ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Single  speed และ Fixed Gear ได้อย่างง่ายดาย ยังสามารถใส่กับยางขนาดใหญ่ได้ถึงเบอร์ 2.4  Salsa Ala Carte ใช้ Disc Brake ได้เท่านั้น

เฟรม Ala Carte มีรูปทรงที่ปราดเปรียว คล่องแคล่ว สามารถตอบสนองการขับขี่จักรยานของคุณได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทางที่ไม่เอื้ออำนวยในการขับขี่ เช่นทางขรุขระหรือ การขับขี่ทางเรียบ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเราขณะนี้ หรือแม้แต่การขี่ทาง Singletrack คุณก็สามารถไปพร้อมกับ Salsa Ala Carte ตัวนี้ได้อย่างดี Salsa Ala Carte 2011 มีไซส์ให้เลือก 14”/16”/18”/20” เพื่อน ๆ สามารถหามาเป็นเจ้าของได้แล้วที่ร้านจำหน่ายจักรยานชั้นนำทั่วไปครับ

13 ต.ค. 2554

Pre-Jump โดดก่อนได้เปรียบ

|0 ความคิดเห็น
ถ้าคุณต้องการที่จะรักษาความเร็วเมื่อคุณต้องโดดเนิน ไม่ว่าจะลูกเล็กลูกใหญ่เพื่อไปต่อให้ถึงเส้นชัยก่อนใคร คุณจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ศิลปะการกระโดดที่เรียกว่า Pre-Jump

ย้อนกลับไปที่ยุคต้นปี 90 ผู้ชมรักที่จะยืนดูรอบ ๆ ตรงเนินดินที่สูงชันในการแข่ง Downhill ในตอนนั้นยังไม่มีการกระโดดข้ามเนินใหญ่ ๆ หรือการ Drop จากที่สูง ๆ ที่จบลงด้วยการกระแทกลงพื้นอย่างแรง มีแต่เพียงการขี่ชนกองหินหรือเนินดินเล็ก ๆ ที่ไม่สูงนักด้วยความเร็วที่เกือบจะการันตีความปลอดภัย ตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด คือการขี่ในเส้นทางที่มีเนิน ในงาน Italian World Cup DH Course ปี 1993 มีนักแข่งมืออาชีพหลายคนที่ทำการโดยเนินที่มีตัวรับลึกลงไปเหมือนเป็นการ Drop พวกเค้าลอยอยู่ในอากาศแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร หลังจากนั้นก็จะกระแทกตัวลงสู่พื้นดินอย่างแรงจนเสียการทรงตัว และความเร็วลดลง

สิ่งนั้นมันเกิดขึ้นจนกระทั่ง John Tomac มาทำการกระโดดแบบ Bunny Hopped ลงเนินที่มีความสูง 12 ฟุตก่อนดรอปลงเสียบตัวรับในจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบ เขานำรถแตะพื้นของตัวรับหลังจากนั้น เขาจะขี่ด้วยความเร็วคงที่และนำพาตัวเองสู่ที่หนึ่ง โดยที่ไม่มีใครที่จะทำเวลาเข้าใกล้เค้าได้ด้วย นี่เป็นเทคนิคที่เรียกว่า การกระโดด Pre-Jumping

มันอาจจะมีการกระโดดในเส้นทางที่คุณขี่ประจำ จนคุณรู้ว่าคุณสามารถจะเคลียร์เส้นทางนั้นได้ แต่การทำเช่นนั้นบ่อย ๆครั้งมันอาจทำให้เสียความสนุกไป แม้ว่ามันอาจจะเป็นเพียงเนินดินที่ไม่ใหญ่ แต่มีความลาดชันลึกลงไป แล้วก็ต้องใช้ความเร็วในการกระโดด ซึ่งอาจทำให้คุณตกลงเลยตัวรับไปกระแทกพื้นข้างล่างได้ ทักษะการกระโดด Pre-Jump ก็เหมือนกับคุณทำ Bunny Hop กระโดดขึ้นไปก่อนที่จะถึงยอดเนินส่ง มันจะทำให้คุณรักษาความเร็วได้โดยไม่เสียการควบคุม และช่วยคุณเคลียร์การกระโดดลงตัวรับอย่างราบรื่น ต่อจากนี้คือวิธีการของการกระโดด Pre-Jump

1.ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
การกระโดดแบบ Pre-Jump ต้องมีพื้นฐานของการกระโดดแบบ Bunny Hop ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงท่าไปใช้ในการโดด ดังนั้นคุณต้องตัดสินใจว่าคุณจะต้องลอยตัวขึ้นไปสูงเท่าไหร่ คุณสามารถเรียนรู้ทักษะนี้ได้ในลาดจอดรถที่โล่ง ๆ เลือกเส้นจราจรบนพื้นลานจอดรถเพื่อกำหนดเป็นตำแหน่งที่คุณใช้เป็นแนวการกระโดด พยายามเคลียร์การกระโดดให้ได้ในแต่ละครั้ง เพิ่มความเร็วขึ้นเพื่อสังเกตจุดที่ลงพื้นที่ และทำการฝึกกระโดดแบบ Bunny Hop เช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนคุ้นชิน

2.ฝึกฝนในทุก  ๆ ที่
คุณสามารถฝึกกระโดยแบบ Pre-Jump ได้ในทุก ๆ ที่ แค่เพียงการฝึกฝนก็สามารถทำให้คุณขี่ในทางลาดชัน หรือบนเนินดินได้ดี แม้กระทั่งบนทางเท้าบริเวณถนนไม่มีรถวิ่ง คุณก็สามารถใช้เป็นที่ฝึกฝนได้ ถ้าคุณโชคดีพอมีทาง BMX หรือลานสเก็ตที่โรงเรียนใกล้ ๆ บ้าน สถานที่เหล่านี้เป็นที่ที่เหมาะมากในการฝึกฝน

3.ขั้นตอนแรก
หลังจากที่ใช้เทคนิคการฝึกฝนในลานจอดรถ ก็ควรที่จะหาเนินเล็ก ๆ เพื่อที่จะใช้ในการฝึกฝนต่อไป ก่อนอื่นกระโดยขึ้นไปในแนวราบปกติและบันทึกไว้ว่าคุณเสียความเร็วไปเท่าไหร่เมื่อรถลงแตะพื้น ต่อจากนั้นคุณลองใช้เทคนิค Bunny Hop และใช้ทักษะการตัดสินใจเรื่องระยะทางของคุณด้วย เมื่อคุณพร้อมให้ขี่ขึ้นไปบนเนินช้า ๆ หลังจากนั้นให้กระโดดลงสู่ตัวรับด้านล่าง คุณจะสังเกตเห็นว่าคุณไม่เสียความเร็วลงเลย หลังจากนี้ให้เพิ่มความเร็วขึ้น และกระโดดเร็วขึ้นเหมือนที่คุณทำในลานจอดรถ ทำต่อไปเรื่อย ๆจนกระทั่งคุณทำได้เท่าที่คุณกล้าที่จะทำ หรือจนกระทั่งคุณมีความมั่นใจกับการกระโดดแบบ Pre-Jump อย่างเต็มที่

4.คิดในแง่บวก
คิดในทางบวกและขี่อย่างขะมักเขม้น ถึงแม้ว่าการกระโดดแบบ Pre-Jump จะเป็นเทคนิคการกระโดดขั้นสูง แต่มันง่ายที่จะเรียนรู้ เพียงจำไว้ว่า การฝึกฝนจะทำให้การกระโดดสมบูรณ์แบบ เมื่อคุณมีเทคนิคที่ถูกต้อง และมีความเร็วในการขี่ดี คุณสามารถทำการกระโดดแบบ Pre-Jump ได้ในระยะทางที่บ้าระห่ำ

5.พัฒนาทักษะของคุณ
Bunny Hop ไม่ใช่เทคนิคเดียวของการกระโดดแบบ Pre-Jump มันยังมีเทคนิคอื่น ๆ อีกที่คุณสามารถใช้ได้เมื่อคุณมีความมั่นใจกับการโดด เมื่อคุณขี่ขึ้นไปบนเนิน และดึงล้อหน้าให้พ้นพื้นดินเบา ๆ แล้วก็ดึงล้อหลังขึ้นด้วยการถ่ายน้ำหนักตัวของคุณ วิธีที่ง่ายที่สุดในการเรียนรู้เทคนิคนี้คือการขี่บนทางของ BMX ลองหาเนินแบบ Single Jump ที่จะใช้เริ่มในการฝึก จำไว้เสมอว่าให้ดึงล้อหน้าก่อนที่จะถึงยอดเนิน

สิ่งที่ไม่ควรกระทำในการ Pre-Jump การกระโดดสูงเกินไป
ไม่ว่าคุณทำอะไร ต้องมั่นใจว่าคุณทำ Bunny Hop ที่ไม่สูงจนเกินไปจนเกิดความเสี่ยงในการลงสู่พ้น ถ้ามันเป็นเนินที่ใหญ่ คุณอาจจะเจอปัญหามากมาย ให้จำไว้ว่าใหญ่กว่าไม่ได้ดีเสมอไป

ประมาณการผิดพลาด
ตรวจสอบให้แน่ใจว่คุณประมาณการระยะทางได้อย่างถูกต้อง ถ้าประมาณผิดพลาด ล้อหน้าเกิดการสะดุดมันอาจส่งผลให้ตัวคุณเองลอยข้ามแฮนด์จับม้วนหน้าลงสู่พื้นได้

ความเร็วที่มากเกินไป
คุณสามารถเพิ่มความเร็วได้จากการทำ Pre-Jumping แต่ต้องมั่นใจว่าไม่เพิ่มความเร็วจนมากเกินไปให้คำนึงถึงเส้นทางปัญหา กับอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้าต่อไปด้วย ถ้าเส้นทางด้านหลังโล่งคุณสามารถเพิ่มความเร็วได้

The monkey lectric

|0 ความคิดเห็น

จากแสงช่วยป้องกันอันตราย ถูกปฎิวัติสู่ความสวยงามแบบท้องถนนในยามราตรี เดิมทีการขับขี่จักรยานในช่วงเวลาค่ำคืน เราจะว่ากันถึงเรื่องของไฟที่ใช้ป้องกันภัยหรือเป็นสัญญาณบอกผู้ร่วมทาง จากเดิมเราจะนิยมใช้แถบสะท้อนแสงช่วยในการป้องกันอันตรายไม่ให้รถเฉี่ยวชนเอา หรือจะเป็นไฟกระพริบติดท้ายรถที่มีลูกเล่นเพียง 3-4 แบบ จังหวะของไฟกระพริบ และการใช้ถ่านขนาด AA ที่ต้องเปลี่ยนเมื่อหมดกำลังไฟ แต่ก็เป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เพียงแค่เป็นสัญญาณเตือนผู้ร่วมทางว่ามีจักรยานอยู่รวมบนท้องถนน

แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป Monkey Lectric ผู้นำทางโลกแสงสีบนจักรยานในยามมืดมิด ได้ปรับเปลี่ยนความล้าสมัยจองสัญญาณเตือนแบบเก่า แต่กลับเป็นสัญญาณเตือนที่มีความโดเด่นบนจักรยานทุกท่าน สร้างสไตล์ให้กับผู้ขับขี่กับผู้พบเห็นได้อย่างสวยงาม บริษัท Monkey Lectric ก่อตั้งขึ้นโดย Dan Goldmater ในปี 2007 สร้างยุคแห่งการใช้ไฟติดจักรยานในรูปแบบดิจิตอล บวกกับสร้างสไตล์กิ๊บเก๋ในแนวสร้างสรรค์และปลอดภัย Urban street bike art จึงถือกำเนิดขึ้น

Dan Golmater ได้เข้าไปล้วงลับเจาะลึกเกี่ยวกับหลอดไฟทุกชนิดที่มีบนโลก ที่สามารถมาพัฒนางานดีไซน์ให้ได้ถึง effect ที่เกิดจากหลอดไฟขนาดเล็ก ๆ ต่อมาก็มีฝาผิด จุ๊กลมที่เป็นหัวไฟ หลัการทำงานในขณะที่ล้อหมุนด้วยความเร็วระบบจุ๊กไฟก็จะรับถึงแรงสั่นสะเทือนและแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นของการหมุนของล้อ ไฟก็จะติดและจะดับเองโดยอัตโนมัติเมื่อหมดแรงเหวี่ยงจากล้อแต่ต้องใช้ถ่ายจิ๋วขนาดเล็กถึงสามก้อน

ต่อมาได้ Dan Golmater แลเห็นสิ่งสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์นี้ออกมาคือการนำกลับมาใช้ใหม่ของแบตเตอรี่ การรีชาร์ตไฟ เพื่อลดสภาวะโลกร้อนเพราะชาวจักรยานเราเองส่วนใหญ่ก็ต้องการช่วยลดสภาวะโลกร้อนกันใช่ไหมล่ะจากจุ๊กลมไฟสู่การดีไซน์กราฟิคบนล้อในยามมีการเคลื่อนไหว กราฟิคที่ได้จากการหมุนของล้อมีมากมายหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นรูปทรงเรขาคณิตธรรมดาจนถึงโลโก้ สัญลักษณ์ต่าง ๆ รูปหน้าคนสำคัญยังทำได้เลย โดยการเขียนโปรแกรมลงในแผงวงจรไฟฟ้าสร้างช่วงจังหวะเวลาการเคลื่อนไหว ของหลอดไฟ ให้เกิดมิติภาพที่ซ้อนกันของแสงที่ได้จากหลอดไฟสีต่าง ๆ

และหัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผลิตภัณฑ์ต้องเป็น packing เพราะมีขนาดแผงวงจรไฟสร้างกราฟิค เพื่อง่ายต่อการติดตั้งและติดแน่นกับรถจักรยานของคุณ ระบบกันของเหลวเข้าสู่แผงวงจรไฟฟ้าส่วนประกอบหลัก ๆ มีสายหนังที่รัดแผงเซลแบตเตอรี่ไว้อย่างหนาแน่น มั่นใจไร้กังวลว่าจะสูญหาย ไม่ต้องใช้ถ่าน AA แต่เป็นแผงเซลแบตเตอรี่ที่ถูกเคลือบด้วยสารกันของเหลว และสิ่งแปลกปลอม หลอดไฟ LED Ultra Bright 32 หลอด สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 1,000 กว่ารูปแบบของรูปแบบสี มีการดาวโหลดข้อมูล รูปแบบการวิ่งของไฟในเว็บไซต์ การยึดติดกับขอบล้อของจักรยานอย่างหนาแน่นมี Mounting System ที่มาถึง 8 อัน หมดปัญหากับการที่มันจะถูกสลัดออกจากจักรยาน

แต่ยังไม่มีการจัดจำหน่ายในไทย ถ้าถูกใจโดนใจท่านผู้อ่านที่คิดว่าอยากสร้างสรรค์อะไรลงบนจักรยานนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำหรับผู้ขับขี่จักรยานในยามค่ำคืนไม่ต้องกลัวอันตรายจากคนที่ขับขี่รถยนต์บนท้องถนน หรือาชญากรต่าง ๆ เพราะเราย้ายไฟมาเคลื่อนที่ร่วมทางไปกับเรา

11 ต.ค. 2554

จักรยาน Retro bike

|0 ความคิดเห็น
เรื่องราวของสองล้อบนโลกปัจจุบันที่มันไม่ใช่แค่เพียงการปั่นเพื่อออกกำลังกาย แต่เป็นออพชั่นในการโชว์ความเป็นตัวของตัวเอง ในบรรดาวัยรุ่นชายหญิง ปัจจุบันเทรนด์ของแฟชั่นโลกมันเริ่มมีบทบาทต่อชาวสองล้อมากขึ้น จากการแต่งตัวที่ย้อนสู่ยุค 80 รองเท้าผ้าใบหัวแหลมสีสวย ๆ แนว ๆ เสื้อลายสก๊อต กางเกงขาสั้น จากกระแสของชาว Fixed ที่ฮ๊อตฮิตติดชาร์ตไปหนึ่งรายในวงการวัยรุ่นไทย ตอนนี้ก็มีอีกหนึ่งกระแสที่กำลังเริ่มจุดประกายไฟและจะนิยมในอีกไม่ช้า Retro Bike การกลับมาของรถรุ่นเก๋า เก่า แต่เจ๋ง พร้อมกับวัสดุที่ทันสมัย สีสันกวน ๆ แบบชาวฮิปฮิป แต่รูปลักเจ้าคุณปู่ จากแบรนด์ดังมากมาย เพื่อเอาใจผู้หลงใหลความเป็น Old School ในยามวัยเด็ก

ก่อนอื่นต้องเล่าถึงความเป็นมาของรถจักรยาน Old School กันก่อน ความเท่บนสองล้อในสมัยแรกรุ่น ก็คนไม่พ้นชาว BMX ที่ถือว่ากำเนิดมาจากฝั่งประเทศตะวันตกในมลรัฐแคริฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อยากจะขี่จักรยานได้ เหมือนกับจักรยานยนต์วิบาก โดยได้มีการนำจักรยานประเภท Stingray มาขี่ในสนามทำขึ้นเหมือนกับสภาพสนามการแข่งขันจักรยานยนต์วิบาก โดยในยุคเริ่มต้นของจักรยาน BMX นั้นมีการปรับปรุงสมรรถนะของจักรยานโดยมีการนำระบบกันสะเทือน มาใช้กับตัวโครงรถ และตะเกียบด้านหน้า แต่เนื่องจากน้ำหนักที่มากบวกกับราคาที่ค่อนข้างสูงแลเพื่อให้ได้มีการใช้งานอย่างคล่องตัว และเด็ก ๆ สามารถจะเป็นเจ้าของรถอย่างไม่ยากเย็น ผู้ผลิตจักรยานในยุคนั้นจึงได้มีการปรุง และลดชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป รูปแบบของจักรยาน BMX ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจึงได้กำเนิด ณ จุดนี้เองจักรยาน BMX เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นจักรยานเสือภูเขามากขึ้น หลังจากนั้นไม่นาน รถเสือภูเขาเข้ามามีบทบาทแล้วจักรยานก็เริ่มถูกแบ่งออกเป็นหลายแขนงยิบย่อยออกไป

แนวคิดของการเริ่มย้อนยุคสู่วัยเก๋า ก็มาจากเจ้าพ่อแห่งวงการจักรยานสุดโจ๋ กับมาดที่กวน ๆ ภายใต้สังกัดทีม SE Factory Team ในอดีต สู่ผู้ออกแบบรถของบริษัท SE ในปัจจุบัน คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Todd lyons toll lyons Todd Lyons เขาได้เริ่มนำรถ Old School มาขี่กับรถสมัยใหม่ ในงานแข่งปัจจุบัน มีการพัฒนาวัสดุแต่คงความเป็นรูปทรงของ รถ SE ไว้ เปลี่ยนสีสันที่ดูแปลกตาและกำลังเริ่มนำสู่ท้องตลาดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา

หลังจากนั้นอีกไม่นานแบรนด์ต่าง ๆ ก็อดตามกระแสไม่อยู่ ได้เริ่มออกแบบรถย้อนยุคมาอวดโฉมกันมากมายในท้องตลาด อาทิเช่น KUWAHARA ความแตกต่างระหว่าง Old School สายพันธุ์แท้กับรถ Retro Bike ต้องสังเกตกันดีดีถ้ามองกันผิวเผินแทบไม่มีอะไรแตกต่าง อย่างแรกที่มองเห็นชัดคือรูปทรง แฮนด์บาร์ที่เป็นสมัยปัจจุบัน ขนาดของคอที่กว้างขึ้นจากเดิม ถึง 1/8 นิ้ว เพื่อรองรับถ้วยคอในปัจจุบันและ Stem สมัยใหม่ ขาจานจากจานร้อยเป็นแบบใช้กะโหลก หลักอานแบบเดิมที่เยื้องมาด้านหลังถูกเปลี่ยนให้ใช้ของ Mountain Bike โดยเป็นแกนตรง เบรคก็ถูกเปลี่ยน สุดท้ายคือวัสดุใหม่ สีใหม่ จากการสกรีนลายเท่ๆ  เช่น แบงค์ดอลล่าร์สหรัฐ ด้วยเทคนิคและเครื่องมือเคลือบฟิล์มบนตัวถังอย่างน่าอัศจรรย์

Todd Lyons ก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่ล้อ 24 นิ้วเท่านั้น เขาได้ออกแบบล้อ 26 ตามมาอีก เป็นรุ่น      The Hundreds หรือจะเป็น Crook and Castle แม้กระทั่งการร่วมมือกับค่ายรองเท้ายักษ์ใหญ่สุดฮิปอย่าง DC ออกมาเอาใจชาว Retro ทั้งรองเท้าและจักรยาน ส่วนแฟนพันธุ์แท้แว่นดังจากค่าย Oakley ก็ร่วมมือและจะออกสู่สายตาในไม่ช้านี้ อดใจรอแทบไม่ไหวแล้ว ส่วนทาง KUWAHARA ก็ไม่น้อยหน้าร่วมกับ Nike ออกรองเท้ารุ่น ET มายั่วน้ำลายกันอีกถ้วนหน้า เอาเป็นว่าใครรักใคร ใครรักค่ายไหนเลือกกันตามสบายเลย
            

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง