ss

18 ส.ค. 2553

จักรยานถนน, ลู่ และวิบาก ภาค 2

จักรยานถนน, ลู่ และวิบาก ภาค 2



ทีนี้เราจะมาดูประเภทต่อกันนะครับ นั่นก็คือ


2. ประเทภลู่ (Track Event)


การแข่งขันประเภทนี้ จะใสัสถานที่แข่งขันในเวลโลโดรม(velodrome) หากนึกภาพไม่ออกว่าเจ้าเวลโลโดรมหน้าตาเป็นอย่างไรก็ดูตามภาพด้านบนนี้นะครับ เวลโลโดรมจะมีลักษณะเป็นวงกลม หรือวงรี โดยระยะเส้นรอบวงของเวลโลโดรมจะมีระยะทางประมาณ 200-400 เมตร ตามขอบจะสูงชันเพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้ใช้ความชันให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะตอนลงจากขอบความเร็วของผู้ขับขี่ก็จะเร็วขึ้น การแข่งขันในเวลโลโดรมจะมีเสน่ห์ในการดึงดูดผู้ชมได้เป็นพิเศษ เพราะผู้ชมสามารถที่จะมองเห็นการแข่งขันที่เกิดขึ้นทั้งสนามได้ทั้งหมด สำหรับผู้แข่งขันนั้นจะต้องเน้นการฝึกฝนให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และมีจังหวะการเร่ง


ที่รวดเร็ว ฝึกฝนเทคนิคในการขึ้นลงในทางลาด ทางชัน ฝึกฝนที่จะใช้สมาธิที่จะคุมเชิงคู่แข่ง และจะต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างรวดเร็ว จักรยานที่ใช้แข่งประเภทลูกนี้จะไม่มีเกียร์และไม่มีเบรค การแข่งขันประเภทลู่นั้นสามารถแยกย่อยเป็นประเภทการแข่งขันแบบต่าง ๆ อีกมากมายมากกว่า 20 ชนิด ผมจะหยิบยกเฉพาะ


ตัวที่นิยมกันมาก ๆ มาเล่าให้ฟังกัน ได้ยินว่าที่ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนาประเภทการแข่งขันหลากหลายรูปแบบเพื่อการพนัน ถึงแม้ว่าจะเป็นกลุ่มคนเพียงบางกลุ่มเท่านั้นแต่ก็ไม่ดีครับ กีฬาและการพนันไม่ควรที่จะไปด้วยกันน หาไม่แล้วสปิริตของกีฬาก็จะเสื่อมลง แต่ทำไปเพียงเพื่อเงินเดิมพันเท่านั้น มาดูประเภทย่อยของการแข่งขันประเภทลู่กันเลยครับ อันได้แก่



- Madison relay การแข่งขันประเภทนี้เป็นการแข่งขันที่ต้องมีการ Tag team จะเห็นได้ว่านักกีฬาจะมีการจับมือกันและใช้ประโยชน์จากการเหวี่ยงและผลักเพื่อนร่วมทีมไปข้างหน้า หรือว่าการช่วยเหลือกันที่จะส่งเพื่อนของตัวไปข้างหน้าให้เร็วยิ่งขึ้นทำไปอย่างนี้เพื่อสลับตำแหน่งกันไปมา การแข่งขันประเภทนึ้ถ้าไม่มีความชำนาญและความเข้าใจเพื่อร่วมทีมก็จะเป็นอันตรายมากครับ พลาดพลั้งขึ้นมาก็เจ็บตัวเอาการทีเดียว แต่การแข่งขันประเภทนี้ก็น่าจะมีเสน่ห์ตรงนี้แหละครับ นอกจากนี้ผู้แข่งขันยังจะต้องมีความแข็งแรงค่อนข้างมากทั้งช่วงบนและช่วงล่างของร่างกาย ต้องสามารถปั่นรอบขาได้อย่างรวดเร็วและมีความอดทนสูงดูแล้วไม่ง่ายครับ น่านับถือผู้เข้าร่วมแข่งขันจริง ๆ ที่ฝึกฝนมาจนเข้าขากันได้เป็นอย่างดีขนาดนี้
- Point Race จะมีกลุ่มผู้เข้าร่วมการแข่งขันมาออกตัวพร้อม ๆกัน และขับวนหลาย ๆ รอบ เช่น 40 กิโลเมตร ทุกๆ 10 กิโลเมตรจะมีการนับแต้มให้กับผู้ที่เข้ามาเป็น 5 อันดับแรก ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ามาเป็นอันดับหลังจากนั้นจะไม่ได้แต้ม แข่งไปอย่างนี้จนถึงรอบสุดท้ายใครที่ได้คะแนนรวมสูงสุดก็จะเป็นผู้ชนะ ที่บ้านเราก็นิยมการแข่งขันประเภทนี้ แม้ว่าจะไม่ได้ทำการแข่งขันอยู่ใน เวลโลโดรมก็ตาม เช่น จัดการแข่งขันให้ปั่นกันรอบสนามธูปเตมีย์เป็นต้น
- 0lympic sprint การแข่งขันประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ทีมแต่ละทีมมี 3 คน จะเริ่มต้นด้วยการออกตัวคนละฝั่ง แต่ละรอบนักกีฬาทั้ง 3 จะต้องผลัดกันนำและเมื่อครบรอบก็จะออกจากสนามแข่งไป เช่น รอบแรกนาย ก นำ พอครบรอบนาย ก ก็จะออกไปจากสนามและให้นาย ข ขึ้นมานำ และรอบสามก็จะเหลือ
คนสุดท้ายที่จะต้องปั่นเข้าเส้นชัย การแข่งขันชนิดนี้ความสนุกจะอยู่ตรงที่ผู้จัดการทีมจะต้องรอบคอบในการวางตัวนักปั่นซึ่งจะทำอย่างนั้นได้ดีจะต้องมีความเข้าใจในตัวนักกีฬาทั้งทีม ดูไปมาก็เหมือนกับการแข่งขันวิ่งผลัดของเราดี ๆนั่นแหละครับ ซึ่งเคล็ดลับแห่งชัยชนะก็คือการวางตัวนักกีฬานั่นเอง- Pursult การแข่งขันประเภทนี้จะมีความคล้ายคลึงกับ 0lym-pic spint คือใครเข้าเสันชัยก่อนชนะ เพียงแต่นักกีฬาทุกคนในทีมจะอยู่ในการแข่งขันตั้งแต่ต้นจนจบ และไม่ได้มีกฎเกณฑ์ว่าใครจะต้องนำหรือว่าตาม ขึ้นอยู่กับแผนการของแต่ละทีม แต่จะมีการเพิ่มกฎว่า ถ้าอีกทีมสามารถน๊อกรอบได้ก็จะชนะไปเลย ระยะทางในการแข่งขันโดยส่วนใหญ่จะมีระยะทางยาวประมาณ 2-4กิโลเมตร
- Sprint ในการแข่งขันลักษณะนี้ผู้แข่งขันทั้ง 2 คนจะออกตัวไปพร้อมกันและจะพยายามเอาชนะกันเพื่อเข้าเส้นชัย แต่นักกีฬาทั้ง 2 คนนั้นในช่วงต้นจะพยายามคุมเชิงกันไปมาจนกว่าจะถึงรอบสุดท้ายที่นักแข่งทั้งสองจะต้องพยายามปั่นสุตชีวิตเพื่อทีจะเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก นักกีฬาทั้งสองจะมีความพยายามอย่างมากที่จะขึ้นไปอยู่บนขอบเวลโลโดรม แล้วทิ้งตัวลงมาเพื่อชิงความได้เปรียบในการเข้าเส้นชัยด้วยการใช้ความเร็วจากการทิ้งตัวลงมา รอบสุดท้ายของการแข่งขันประเภทนี้จะเป็นอะไรที่สนุกมาก ๆ ครับ มีทั้งการชิงไหวชิงพริบ ใช้ความเร็วเมื่อถึงเวลาเรียกได้ว่ามีครบทุกรสชาติในรอบสุดท้ายทีเดียว
- Time Trial โดยมากระยะทางของการแข่งขันประเภทนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 กิโลเมตร ผู้แข่งขันจะมีโค้ชยืนอยู่ด้วยกับนักกีฬาที่จุดสตาร์ทและจะเป็นคนช่วยส่งในการออกตัว และผู้แข่งขันจะต้องรีบปั่นรวดเร็วสุดชีวิตเพื่อที่จะเข้าเส้นชัย ใครใช้เวลาน้อยที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะการแข่งขันประเภทลู่ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมายในช่วงหลังๆ มีทั้งที่ช่วยกันปั่นสองคนหรือแบบที่มีมอเตอร์ไซค์ขับนำแต่พอจะสรุปได้ว่าการแข่งขันประเภทลู่นี้ ผู้เข้าแข่งขันจะต้องมีรูปร่างที่แข็งแรงบึกบึนมาก เนื่องจากเป็นกีฬาประเภทที่ต้องการความเข็งแรงของกล้ามเนื้อในการออกแรงอย่างรวดเร็ว หากคุณผู้อ่านท่านใดสนใจจะเอาดีในการปั่นจักรยานประเภทนี้แนะนำให้นำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าช่วย เรียกได้ว่าน้อง ๆ ของการหัดเพาะกายเลยล่ะครับ

3. ประเภทวิบาก (Off road)

การแข่งขันประเภทนี้จ ะไม่ แข่งขันกันบนถนนปกติ แต่จะต้อง มีจุดท้าทายความทรหด มีความยากลำบาก เช่น สนามอาจจะเปียกแฉะ เลอะเทอะ มีระยะทางที่ท้าทาย ผิวถนนที่ขรุขระ แต่การแข่งขันประเภทนี้มีข้อดีคือจะเปิดกว้างให้กับผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายวัยและรวมทั้งหลากหลายความสามารถ เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันที่เปิดกว้างให้นักกีฬาในหลาย ๆ กลุ่มได้เข้ามามีโอกาสพิสูจน์ฝีมือกันอย่างถ้วนทั่ว เช่นBMX เป็นการแข่งขันหนึ่งที่เปิดให้เด็ก ๆ เข้าร่วมการแข่งขันได้ BMX เป็นการแข่งขันที่ต้องขับวนอยู่ในที่ ๆ มีดินโคลน และเต็มไปด้วยเนินที่ต้องกระโดดขึ้น กระโดดลงอยู่ตลอดเวลา เน้นทักษะในการประคองตัวเองและจักรยาน การทรงตัวนั่นเองครับ



- Cross country การแข่งขันประเภทนี้สถานที่แข่งขันนั้นจะประกอบไปด้วยพื้นผิวหลายสภาพ และคู่แข่งขันจะมีหลายกลุ่ม ส่วนระยะทางก็จะเริ่มตั้งแต่ 8-80 กิโลเมตร การเริ่มต้นการแข่งขันก็มีทั้งแบบเป็นกลุ่มหรือทีละคน ผู้ชนะ จะเป็นแบบใครเข้าเส้นชัยก่อนเป็นผู้ชนะหรือจับเวลาว่าใครเร็วที่สุดเป็นผู้ชนะทั้งนี้ก็แล้วแต่ประเภทของการแข่งขันครับ cross country นั้นจะต้องอาศัยความชำนาญในการบังคับรถจักรยานเสือภูเขา ซึ่งจะถูกยกหิ้วไปหิ้วมา ขึ้นเขาลงห้วย ซึ่งเป็นความมันส์ที่นิยมกันอย่าง กว้างขวาง
- Dirt Criterium การแข่งขันลักษณะนี้จะคล้ายกับ criteriumดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่สนามนี้จะประกอบไปด้วยหิน ดินทราย คุณผู้ชมทั้งหลายจะมีโอกาสได้ชมตามจุดต่าง ๆ และมีวิวทิวทัศน์ให้ชมด้วย
- Down Hill เป็นการแข่งขันที่ออกจะคล้าย ๆ กับการแข่งขันสกีคือปั่นลงเขาอย่างเดียวตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ใครใช้เวลาน้อยที่สุดเป็นผู้ชนะ ถ้าท่านใดเคยชมการแข่งขันประเภทนี้ก็อาจจะเคยเห็นจักรยานล้มคว่ำกันไปบ้าง ผู้เข้าแข่งขันกีฬาประเภทนี้นั้นจะต้องมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีทักษะการบังคับรถที่ดีมาก
- HiII climb ก็ตามชื่อเลยครับ นั่นก็คือการปั่นจักรยานขึ้นเขามีความวิบากเอาการเพราะต้องปั่นขึ้นไปตามทางลาดชัน
- Dual slalom เป็นการขับเคี่ยวระหว่างคนสองคนที่แข่งพร้อมกัน คู่กันไป ใครแพ้ก็ไม่ได้เข้ารอบถัดไป จะแข่งกันหลายๆรอบจนเหลือผู้ที่ทำคะแนนดีที่สุดสองคนมาแข่งกันในรอบสุดท้ายเพราะฉะนั้น คุณจะต้องพร้อมมากในด้านร่างกาย คุณจึงจะสามารถชนะรายการนี้ได้

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ การแข่งขันจักรยานที่กล่าวมาทั้งสามกลุ่มบางรายการก็มีการถ่ายทอดการแข่งขันผ่านหน้าจอโทรทัศน์ให้เราได้ชมกันบ่อยๆ แต่บางอย่างก็หาดูได้ไม่ง่ายนัก อย่างไรก็ดีอ่านกันมาจนถึงตอนนี้แล้ว ผมก็หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณผู้อ่านมีความรู้ในประเภทของการแข่งขันจักรยานประเภทต่างๆ และพอนึกภาพกันออกบ้างนะครับ หากท่านใดสนใจเข้าร่วมการแข่งขันประเภทใดก็แนะนำให้เลือกฝึกซ้อมในประเภทที่เหมาะสมกับร่างกาย และความสนใจของเราที่สำคัญต้องฝึกอย่างจริงจัง เพื่อชัยชนะตามที่หวังไว้ครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง