ss

12 ม.ค. 2557

ประชาสัมพันธ์ งานประเพณีปั่นจักรยานพิชิตอินทนนท์ ประจำปี 2557

|0 ความคิดเห็น
ขอประชาสัมพันธ์กิจกรรม "ประเพณีปั่นจักรยานพิชิตอินทนนท์ ประจำปี 2557 ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ คณะกรรมการกำหนดเปิดรับสมัคร ตั้งแต่ วันที่ 2 มกราคม 2557 และสิ้นสุดการรับสมัคร ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 และที่สำคัญสำหรับท่านที่ยังไม่รู้ ต้องขอบอกมิตรรักนักปั่นกันก่อนว่า งานนี้ไม่มีการลงทะเบียนหน้างานนะครับ เพราะทางผู้จัดงานได้แจ้งไว้ในกระทู้ thaimtb แล้วส่วนท่านใดที่สนใจและยังไม่ได้สมัคร ก็ไปสมัครได้ตามลิ้งค์นี้เลย  http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=54&t=870759  ส่วนผู้เขียน ตอนนี้ก็กำลังฝึกซ้อมเพื่อไปงานนี้โดยเฉพาะ เพราะตั้งใจมาหลายปีแล้วว่าจะพิชิตอินทนนท์ให้สำเร็จ เพราะเคยไปเมื่อครั้งที่ 2 แต่ครั้งนั้นปั่นรุ่นท่องเที่ยว 16 กิโลเมตร จึงยังค้างคาใจมาจนทุกวันนี้ และปีนี้ได้โอกาสอันดีจะต้องพิชิตให้สำเร็จ สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ซ้อมก็เริ่มซ้อมได้แล้วนะครับ เพราะใกล้ถึงวันงานแล้ว แล้วเราไปพบกันที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ เพื่อทำความฝันให้เป็นจริงครับ



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=54&t=870759

11 ม.ค. 2557

พบกับสุดยอดรถจักรยานพับได้ กับ 10 อันดับสุดฮิตโดนใจวัยโจ๋

|0 ความคิดเห็น
10 รถพับสุดเจ๋ง จากการจัดอันดับของ The Independent

สภาพการจราจรที่ดูไม่ผิดแผกไปจากการจราจลของเมืองใหญ่ไม่เพียงแต่ในกรุงเทพอย่างทุกวันนี้ ทำให้หลายคนหันมาพึ่งสองขาของตัวเองออกแรงถีบจักรยานสองล้อเลื่อนไหลไปตามซอกเล็กๆ สู่จุดหมายกันไม่น้อย โดยเฉพาะรถจักรยานพับ (folding bike) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก


ด้วยความสะดวกสบายหลายอย่าง ทั้งการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ รวมถึงการพกพาที่ง่ายดาย ไปได้ทุกหนแห่ง ทำให้เจ้าตัวเล็กสองล้อกำลังครองใจคนเมืองที่เบื่อหน่ายความวุ่นวายบนท้องถนน หันมาใส่ใจในชีวิตช้าๆ กันมากขึ้น สำหรับที่ต่างประเทศนั้น ต้องยอมรับว่าหลายประเทศให้ความสำคัญกับการเดินทางด้วยพาหนะสองล้อชนิดนี้กันมาเป็นเวลานาน กระทั่งหันมาใช้จักรยานกันในชีวิตประจำวันจนกลายเป็นสิ่งปกติ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาการจราจรที่บ้านเราน่าลองนำมาปรับใช้กันอย่างจริงจัง หากทำได้คงดีไม่น้อย

สำหรับใครที่กำลังมองหาจักรยานพับไว้ใช้งานสักคัน แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี โอกาสนี้เรารวบรวมข้อมูล 10 อันดับรถพับสุดเจ๋ง จากการจัดอันดับของ The Independent สื่อยักษ์ใหญ่แห่งประเทศอังกฤษ มาให้ได้ลองพิจารณากันตามอัธยาศัย ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น ติดตามกันได้เลย

1.RIDGEBACK ATTACHE


ด้วยโครงที่ทำจากอลูมิเนียม บนวงล้อขนาด 20 นิ้ว ทำให้ Attache มีน้ำหนักเพียง 11.9 kg.ส่วนตะแกรงวางของด้านหลังก็มีความสูงกำลังเหมาะ ทำให้เวลาขี่ เท้าของคุณจะไม่ไปกระทบกับกระเป๋าที่วางไว้อยู่ด้านหลัง ส่วนค่าตัวของเจ้า Attache ตกอยู่ราวๆ 27 k (£599.99)
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ : ridgeback.co.uk

2.DAHON SPEED D7

 

เจ้าตัวเล็กล้อ 20 นิ้ว คันนี้ คุณจะได้สนุกกับการปั่นและเปลี่ยนเกียร์ตามระดับความเร็วตามต้องการถึง 7 ระดับ แม้ว่า DAHON SPEED D7 จะไม่เบาเท่าไหร่ แต่มันก็ไม่หนักเกินไปนัก (12.3 kg.) แต่จุดเด่นของจักรยานคันนี้ คือมีการป้องกันแบบ Kevlar บนพื้นผิวของล้อที่ช่วยทำให้การขี่ของคุณง่ายขึ้น ไม่ว่าจะขี่บนถนนหรือพื้นขรุขระ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรถพับชื่อดังที่น่าสนใจซึ่งนักปั่นหลายคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว กับราคาเฉียดๆ 18k (£399.99) นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับคนเมือง
ข้อมูลเพิ่มเติม : halfords.com

3.MEZZO D10

จักรยานพับ D10 คันนี้ ช่วยประหยัดพื้นที่ในการเก็บได้มาก เพราะมีล้อขนาดเพียง 16″ เท่านั้น ซึ่งถือเป็นขนาดที่เล็กกว่ารุ่นทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะเป็นล้อขนาด 20″ และยังมีเกียร์มากถึง 10 ระดับอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่จิ๋วและแจ๋วเลยทีเดียว แต่ก็ต้องแรกด้วยค่าตัวราว 43,000 บาท (£975)
ข้อมูลเพิ่มเติม : mezzobikes.com

4.RIDGEBACK RENDEZVOUS



ถือได้ว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ดูคลาสสิก ด้วยโครงที่ทำจากเหล็กและล้อขนาด 20″ และหนักเพียง 12.5 kg.จึงเป็นจักรยานที่ขี่ได้สบายๆ รุ่นหนึ่ง สำหรับราคาค่าตัวตกอยู่ราว 12500 บาทเท่านั้น (£279.99)
ข้อมูลเพิ่มเติม : ridgeback.co.uk

5.DAHON MUSL MAGNESIUM



ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 8.3 kg. มาพร้อมกับเกียร์ 9 ระดับ และโครงสร้างจักรยานที่ถูกออกแบบมาอย่างดี จึงทำให้เกิดความสบายขณะปั่น นอกจาก MuSL ยังสามารถพับเก็บได้ง่ายและรวดเร็ว พกพาสะดวกและทนทานเป็นอย่างมากอีกด้วย ราคาโดยประมาณตกอยู่ราว 45,000 บาท (£999.99)
ข้อมูลเพิ่มเติม : dahon.com

6.CARRERA TRANSPORT


หากคุณเป็นมือปั่นสมัครเล่นหรือมีงบประมาณในจำนวนจำกัด จักรยานรุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะด้วยราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ราว 13,500 บาท (£299.99) สำหรับจักรยานที่ถูกสร้างมาอย่างลงตัว พร้อมที่วางของด้านหลัง Carrera จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ข้อมูลเพิ่มเติม : halfords.com


7.BROMPTON S2L


ด้วยล้อที่มีขนาด 16 นิ้ว พับเก็บง่าย และกลไกของรถที่ถูกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม มีประสิทธิภาพ ถ้าได้ลองขี่ BROMPTON แล้ว รับรองว่าคุณจะไม่อยากขี่คันอื่นอีกเลย ราคาอยู่ที่ 34,000 (£759)
ข้อมูลเพิ่มเติม : evansscycles.com

8.BROMPTON P6R-X



“X” แค่ชื่อรุ่นก็บอกแล้วว่า BROMPTON P6R-X คันนี้มีตะเกียบล้อหน้า และโครงที่ทำจากวัสดุชั้นดีอย่างไทเทเนี่ยม ที่ทำให้น้ำหนักเบาและดูดี นอกจากนี้มี handgrips ที่ช่วยให้คุณก้มตัวขี่ต้านลมได้อย่างสนุกอีกด้วย แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าตัวราว 62,500 บาท (£1,390)
ข้อมูลเพิ่มเติม : brompton.co.uk


9.GIANT HALFWAY 1


จักรยานลูกครึ่งระหว่างแบบพับและแบบ full-size ที่มีข้อต่อที่ช่วยทำให้กางออกง่าย และที่ล้อ ยังเป็นแบบตะเกียบเดี่ยว (monofork) จึงยิ่งทำให้ Giant Halfway กลายเป็นจักรยานพับขนาดกระทัดรัดและช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากเลยทีเดียว ราคาโดยประมาณ 34,000 (£699)
ข้อมูลเพิ่มเติม : giant-bicycles.com

10.MOBIKY GENIUS



เป็นรุ่นที่มีล้อเล็กที่สุด เพียงแค่ 12 นิ้ว เท่านั้น และเมื่อพับเก็บแล้วก็ยิ่งเล็กลงอีก ถึงแม้ว่า MOBIKY GENIUS จะเป็นจักรยานไซส์เล็ก แต่คุณสมบัติของมันไม่เล็กตามขนาด เพราะนอกจากจะขี่สบายในระยะทางไกลแล้ว ก็ยังเป็นอีกช้อยส์หนึ่งที่น่าสนใจของคนที่ชอบขี่จักรยานไปทำงานอีกด้วย ราคาประมาณ 22,000 บาท (£499.99)
ข้อมูลเพิ่มเติม : foldingbikes.co.uk



ไปหน้าแรก  การปั่นจักรยาน





เรียบเรียงจาก http://www.independent.co.uk/

การฝึกขี่ขาเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

|0 ความคิดเห็น
การฝึกขี่ขาเดียว  (Isolated leg training) เพื่อพัฒนาการปั่นให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

นักกีฬาทั่วไปสามารถที่จะพัฒนาการปั่นให้ขามีความแข็งแรงและมีอัตราเร่ง Sprint ที่ดีขึ้นได้ ข้อแตกต่างของมืออาชีพกับเราคือ เขาจะมีเวลาที่จะแก้ไขจุดที่บกพร่องในการขี่ของเขาได้มากกว่าเราแต่เราก็สามารถที่ จะใช้เวลาที่มีอยู่น้อยของเราให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้เช่นกันเพราะสาระอยู่ที่ วิธีการที่ถูกต้องด้วยเวลาที่เหมาะสมต่างหาก การเพิ่มความแข็งแรง โดยทั่วไปก็คือการวิ่ง การปั่นจักรยาน การเล่นเวท การว่ายน้ำ แต่การที่เราต้องการให้พลังขาเราแข็งแรงและมีอัตราการเร่งความเร็วที่สั่งได้เราจะต้องฝึกให้การปั่นของเรา มีประสิทธิภาพการทำงานให้ราบรื่นหรือมีการส่งผ่านพลังการปั่นอย่างต่อเนื่องเป็นรอบวงกลม 


การปั่นหรือภาษานักแข่งบ้านเราเรียกการควงขานั้นเองแต่หลายๆคน ก็ยังสงสัยและงง ๆ ว่าจริงๆ แล้วการควงขาที่ ถูกต้องทำอย่างไร เป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมานักแข่งได้ค้นพบ การปั่นขาเดียวหรือการปั่นอย่างโดดเดี่ยว มันสามารถที่จะช่วยพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาและการเร่งที่ฉับไวสั่งได้ดังใจนึก ดังนั้นเวลาที่เรามองดูการปั่นของนักปั่นมืออาชีพการปั่นของเขาจะราบรื่น และสามารถที่จะเพิ่มอัตราการเร่งของขาและเขาจะดูมีพลังที่เพียงพอจะผ่านภูเขาสูงชันหรือ เร่งอย่างฉับไวได้

นักแข่งมืออาชีพเขาจะไม่กระทืบกดลูกบันไดลงอย่างเดียวแต่เขาจะใช้การฝึกปั่นขาเดียวมาทำให้การปั่นสมบูรณ์เป็นวงรอบหรือ การควงขานั้นและครับ โดยทั่วไปในขณะที่เราปั่นสองขาอยู่นั้น
ขาข้างใดข้างหนึ่งของเรามักจะไม่สามารถที่จะส่งกำลังผ่านจุดตายของจังหวะปั่นด้านหลังได้หลังจากที่กดลูกบันไดลงไป ข้างหน้าแล้วเมื่อถึงจุดต่ำสุดของการปั่นให้ดึงเท้ากลับด้านหลังเป็นแนวเดียวกับพื้นถนน คือการดึงขากลับด้วยไม่ใช่ปล่อยขาทิ้งเป็นลักษณะกระทืบปั่นแล้ว ดึงหน้าขาขึ้นเหมือนตีเข่าให้ข้ามถึงจุดสูงสุดก่อนกดลงอีกครั้งทำลักษณะนี้ทั้งสองขา
 

เริ่มแรกให้ท่านเริ่มฝึกทดลองโดยที่ยังไม่ต้องพึ่ง magnetic trainer ก็ได้ถ้าไม่มี นะครับหาที่ปั่นจักรยานที่การจราจรไม่คับคั่ง ในสนามกีฬาหรือสนามโล่งหน่อยเพราะท่านต้อง ล็อคบันไดปั่นเพียงขาเดียวแล้ว เริ่มทดลองปั่นแล้วโดยขาอีกข้างไปเหยียบที่ดุมแกนปลดหลัง ข้างใดข้างหนึ่งไว้ ความรู้สึกเเรกที่คุณจะพบได้ก็คือเมื่อคุณกดลูกบันใดลงไปถึงจุดต่ำสุดของการปั่นการเรียนรู้ที่จะปั่นให้เป็นวงรอบควงขาก็จะเกิดขึ้นได้ต่อ เมื่อคุณต้องดึงเท้ามาข้างหลังและดึงขึ้นสู่จุดสูงสุดไม่ต้องรีบร้อนปั่นครับช่วงแรกคุณอาจจะแปลกๆ เหมือนเคยแปรงฟันด้วยมือที่ถนัดแล้ว ต้องเปลี่ยนอีกมือหนึ่งแปรง ปั่นไปสักประมาณ 10 วินาที แล้วเปลี่ยนเอาขาข้างที่ไม่ถนัดปั่นดูท่านจะปั่นไม่ค่อยถนัดใช่มั๊ยหล่ะครับ นั้นแหละครับครับพละกำลังที่หายไปส่วนหนึ่งจากขาที่ถนัด+กับขาด้านที่ไม่ถนัดเราเลยปั่นได้ไม่เร็วและสั่งไม่ได้ดังใจ เราเลยต้องมาเรียนรู้การปั่นให้เป็นวงรอบโดยจับความรู้สึกจากการปั่นทีละขาเพื่อพัฒนาความแข็งแรงขาที่ไม่ถนัดคู่กันไปด้วย

ก่อนการเริ่มฝึกควร warm up 10-15 นาที อย่าพึ่งสนใจการขี่แบบปกติของคุณ ในระหว่างการฝึกซ้อมคิดถึงแต่การขี่ให้ราบรื่น สอดประสานกันและมีพลัง ไม่เกี่ยวกับความเร็วของขาหรือระบบหลอดเลือดหัวใจ เพราะเราจะฝึก weight training เพิ่มเติมเอา
 

รูปแบบการปั่นความแข็งแรง การรักษาตวามเร็ว การเร่งอย่างฉับไว้จะค่อยๆดีขึ้นจะดีมากขึ้นเมื่อผ่านไป 1 อาทิตย์ 1 เดือน ในช่วงแรกๆจะยาก คูณจะรู้สึกว่าขา ไม่ทำงานประสานกันและกล้ามเนื้อจะอ่อนล้าเร็วเพราะว่าเราเริ่มใช้วิธีการที่ไม่คุ้นเคยแต่ผลตอบแทนมันจะค้มค่ามากหากคุณอดทนทำอย่างสม่ำเสมออาทิตย์ละ 1-2ครั้ง

โปรแกรมการฝึกแบบที่ 1


เกียร์ จำนวนรอบขาต่อนาที วิธีปั่นและเวลา
39x17 40-60 2 นาที ด้วยขาข้างซ้าย
39x17 40-60 2 นาที ด้วยขาข้างขวา
39x17 80-100 2 นาที ด้วยขาทั้งสองข้างปั่นสบายๆ
39x19 80-90 2 นาที ด้วยขาข้างซ้าย
39x19 80-90 2 นาที ด้วยขาข้างขวา
39x17 80-100 2 นาที ด้วยขาทั้งสองข้างปั่นสบายๆ
ทำ 2-3 เที่ยว

โปรแกรมการฝึกแบบที่ 2

เกียร์ จำนวนรอบขาต่อนาที วิธีปั่นและเวลา

39x17 80-100 3 นาที ด้วยขาข้างซ้าย
39x17 80-100 3 นาที ด้วยขาข้างขวา
53x13 40-60 3 นาที ด้วยขาทั้งสองข้างปั่นหนัก
39x19 80-100 3 นาที ด้วยขาทั้งสองข้างปั่นสบายๆ
ทำ 2- 3 เที่ยว

ค่าทีแสดงนี้เป็นค่าเกียร์เรโชของเสือหมอบถ้าท่านใช้เสือภูเขาท่านก็ใช้วิธีหาเรโชเปรียบเทียบ
โดยเอาค่าใบจานหน้าตั้งแล้วเอาค่าหลังหารจะออกมาเป็นค่าเรโชครับ


ไปหน้าแรก  การปั่นจักรยาน






ขอบคุณบทความจาก http://nikornbikes.com/index.php/topic,44.0.html

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง