เดิมที่ Dirt Jump มาจากการพลิกแพลงในการนำรถเสือภูเขามาใช้ กระโดดโลนเต้น ตามถนนหนทาง ขึ้นโต๊ะ ลงฟุตบาท ตามประสาที่กลายเป็นชาว Street ในปัจจุบัน ส่วนชาว Dirt Jump ไม่ค่อยจะแตกต่างกันมากนักในรูปทรงของจักรยาน แต่นักโดดตัวยงทั้งหลายเขามักจะอยู่กับสนามดิน เหตุก็มาจากความซุกซนเริ่มทำเนินโดดจากเล็ก มาถึงปัจจุบันที่มีเรื่องเล่นมากมายทั้ง Wall Ride หรือจะเป็นกระดานกระดก แม้แต่รถบรรทุก เรือบรรทุกสินค้าก็ยังมาเป็นอุปสรรคในการกระโดด โชว์ลีลาทุกรูปแบบ
จากรถเสือภูเขาที่นำมาประยุกต์ในการขี่เล่น ก็เริ่มมีการออกแบบให้ความแข็งแรงคงทนมากขึ้นสรีระของรถเริ่มเปลี่ยนไป ตัวถังเริ่มมีความหนา และรอยเชื่อมในจุดที่รับแรงกระแทกจากการกระโดด อะไหล่ชิ้นส่วนต่าง ๆ เริ่มนำของ BMX มาใช้จากมีเกียร์ ก็เริ่มเข้าสู่ยุคของ Single Speed จากประเด็นที่ขาของตีนผีที่ยาวในบางรุ่น บวกกับตำแหน่งของโซ่และจังหวะของกระแทกที่พอดิบพอดี จึงทำให้ขาของตีนผีเข้าไปงัดกับล้อ ทำให้เกิดความเสียหาย และบาดเจ็บ เมื่อนำความเป็น BMX บวกกับความเป็น Mountain จากตัวถัง Mountain ที่รองรับดุมแกนปลดในหางหลังทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของล้อเป็นเหตุที่โซ่ตกออกจากเฟือง ในช่วงแรก ๆ จึงต้องมีตัวช่วย ที่เรียกว่า Adapter Single Speed จะเป็นตัวนำทางของโซ่ไม่ให้ตกออกจาเฟืองและ Chain Guide ในส่วนของใบจานหน้า
เมื่อตัวถังได้ถูกออกแบบให้รองรับกับความเป็น Single Speed เริ่มมีการนำเอาหางปลามาใช้เพื่อให้ล้อหลังไม่เกิดการเคลื่อนตำแหน่งและการขยับตัวของแกนล้อ อีกทั้งให้ความแข็งแรงมาขึ้นจึงทำให้ Adapter Single Speed และ Chain Guide หมดความสำคัญลง เพราะเราแค่ตัดโซ่ให้พอดีกับรอบของเฟืองหน้า และหลัง และตั้งความตึงหย่อนแล้วแต่ชอบ ยึดหางปลาให้แน่น โซ่ก็ไม่ตกออกจากเฟืองแล้ว โซ่ก็เริ่มมีบทบาทในการแต่งรถ จากภาพเดิมที่เราคุ้นเคยโซ่จะต้องดำเกรอะจากคราบน้ำมัน แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการใส่สีสันให้กับโซ่ที่เป็นหัวใจในการขับเคลื่อน ซี่ลวดก็ยังเป็นไปกะเขาด้วย เริ่มมีสีสันเข้ามาให้เลือกมากมาย
ตะเกียบจักรยานก็เข้าสู่วงการชาวคลุกฝุ่น และมีบทบาทมากกว่าโช๊คกันสะเทือนของชาวเสือเริ่มเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปอย่างสิ้นเชิงจากการช่วยลดการสะเทือนกลายเป็นภาระไปซะได้ ทั้งน้ำหนัก และการเสียแรงในการปั่นจากช่วงยุบของโช๊คซะอีก
แม้แต่เรื่องล้อก็เริ่มถูกลอกคราบจากเสือภูเขา จากล้อใหญ่ 26 นิ้ว ก็ลดลงเหลือ 24 นิ้ว ยางก็ถูกผลิตเป็นดอกเรียบมากขึ้น ขาจานก็เริ่มนำเอารูปแบบขาจาน BMX มาใช้ ตัวถังใหม่ก็ออกมารองรับง่าย ๆ ก็คือ เหมือน BMX คันใหญ่ขึ้นนั่นเอง แต่มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวแฝงอยู่
เมื่อขี่จนฝีมือเข้าขั้นมากขึ้น ก็เริ่มปลดระวางเบรกกันเพื่อลดน้ำหนัก ตัวถังยุคต่อมาเริ่มไม่มีส่วนติดตั้งเบรกออกมาจัดจำหน่ายตามกระแสกันไป แล้วจะหยุดรถกันยังไงล่ะทีนี้ สงสัยต้องพึ่งลำแข้งและพื้นรองเท้า แล้วแต่สไตล์ใครสไตล์มัน
เมื่อไร้ขีดจำกัดในการแต่งรถระหว่างชาว Street-Dirt Jump และ BMX สำหรับอะไหล่จักรยานที่ใช้ร่วมกันได้รถก็จะมีสไตล์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ขาจาน บันได้ เบาะ ปลอกแฮนด์ แฮนด์ ตัวถัง ขอบล้อ ซี่ลวด แม้กระทั่งโซ่ เลือกสีสันตามความชอบของเจ้าของและเพิ่มสีสันบนท้องถนนมากขึ้นอีกด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น