ss
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จักรยานพับ/Mini Bike แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จักรยานพับ/Mini Bike แสดงบทความทั้งหมด

9 มี.ค. 2556

ทำไมถึงปั่นจักรยานในกรุงเทพ ?

|0 ความคิดเห็น

ทำไมถึงปั่นจักรยานในกรุงเทพ
เคยเป็นไหมที่ต้องตื่นตั้งแต่เช้า เพื่อจะไปนั่ง/ยืนหลับบนรถเมล์เพราะรถติดเคยเป็นไหม โบกแท๊กซี่ 10 คัน ไม่มีคันไหนยอมรับคุณไปส่งเคยเป็นไหมนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างระยะทางไม่ไกลแต่พอถึงจุดหมายปลายทางแล้วต้องขอบคุณพนะเจ้าที่ทำให้มีชีวิตรอดผ่านจากการขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเคยเป็นไหมใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางระยะทางแค่ 10 กิโลเมตร

ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาหลักของการจารจรในกรุงเทพที่ไม่มีใครหนีพ้น วันหนึ่งคิดเสียว่านั่งรถจากบ้านไป ที่ทำงานใช้เวลา 2 ชั่วโมง ไปกลับ 4 ชั่วโมง หนึ่งสัปดาห์คุณเสียเวลาไปแล้ว 24 ชั่วโมง แต่ละวันใช้เงินในการเดินทาง 50 บาท ไปทำงานหนึ่งวันหายไปแล้ว 100 บาท หนึ่งสัปดาห์ หายไปแล้ว 600 บาท โอเค มันอาจดูไม่หนักหนาสาหัส แต่เวลาที่คุณเสียไป 24 ขั่วโมง มันสามารถเป็นเวลาที่คุณนอนหลับพักผ่อนต่อได้อีก หรือเงิน 600 บาทที่จ่ายไป เก็บหอมรอมริบเอาไว้ 4 สัปดาห์ก็มีเงินเพิ่มขึ้นแล้ว
ลองหันมาปั่นจักรยานดูดีไหม ระยะทางแค่ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเต็มที่ 40 นาที โอเค ไม่เถียงนะว่าปั่นจักรยานในกรุงเทพไม่น่ากลัว ปั่นมาแล้วทั่วประเทศไทย 8,700 กิโลเมตร ระยะทาง 20 กิโลเมตรสุดท้ายจากนนทบุรีเข้ากรุงเทพเป็นอะไรที่น่ากลัวที่สุด ในทริปแล้ว แต่ถ้ามีคนเริ่ม เราก็เชื่อว่าคนที่สอง คนที่สามก็จะตามมา ถ้าคุณเอาแต่กลัว โลกนี้ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การปั่นจักรยานช่วยคุณประหยัดค่ารถ ค่ามอเตอร์ไซค์ ค่าแท็กซี่ ค่าน้ำมัน และยังช่วยรักษาชีวิตคุณจากการนั่งรถ แท๊กซี่และมอเตอร์ไซค์วิบาก ช่วยรักษาอารมณ์ ไม่ให้อยากที่จะกระโดดถีบคนขับรถแท็กซี่ทุกคันที่ปฏิเสธคุณ ช่วยทำให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรง ถ้าคนมาปั่นเยอะขึ้น ก็จะช่วยลดมลภาวะที่มีมากมายหลือเกินใน กทม สิ่งเดียวที่คุณเสียไปคือ เหงื่อ ที่ต่อมาก็จะตอบแทนกลับมาเป็นร่างกายที่แข็งแรง
ทำไมถึงต้องเป็นจักรยานพับ
ง่ายมาก เพราะจักรยานพับสามารถเอาขึ้น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน แอร์พอร์ทลิงค์ และเอาลงเรือได้ด้วย จักรยานพับช่วยให้คุณเดินทางเร็วขึ้น หลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆที่กล่าวมาจากข้างต้น โดยส่วนตัวแล้วเราทำงานเป็นไกด์ จะให้ไปรับลูกค้าสภาพเหงื่อโทรมกายคงไม่ดี ก็ได้จักรยานพับนี้เองที่ช่วยพาเราจากบ้านไปสถานีรถไฟฟ้า แล้วก็จากรถไฟฟ้าไปโรงแรมลูกค้า วิธีนี้ช่วยทำให้เราเดินทางได้ไวขึ้นไม่ต้องห่วงว่าจะต้องต่อคิวยาวรอมอเตอร์ไซค์ กลางคืนกลับบ้าน ไม่ต้องห่วงว่ารถไฟฟ้าหมด หรือแท็กซี่งี่เง่าไม่รับ กระโดดขึ้นจักรยานคู่ใจแล้วก็ปั่นไปเลย อ๋อ อย่าลืมไฟด้วยนะ
ทำไมถึงเป็น strida
จริงๆแล้วจักรยานพับยี่ห้อไหนก็คล้ายๆกัน ขอให้มันพับได้ก็สามารถเอาขึ้นรถไฟได้แล้ว แต่ส่วนตัวได้ลองทดสอบพับมาหลายคัน มีความรู้สึกว่า Strida พับง่ายมาก พับแล้วเหลืออันนิดเดียว พับแล้วก็ยังสามารถลากไปมาได้เหมือนเดิม ไม่เทอะทะ ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนที่คนแออัดยัดเยียดในรถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน ไม่ต้องแปลกใจถ้าประตูเปิดมาแล้วเจอสายตาประมาณว่า “นี่หล่อนจะเอาเข้ามาจริงๆใช่ไหม” หรือไม่ก็ ‘อย่าเอาเข้ามานะ แค่นี้ก็เต็มแล้ว” ก็อย่าได้แคร์ ขนาดไซส์จักรยานคันนี้ถ้าพับแล้ว ขนาดบางกว่ารถเข็นเด็ก กระเป๋าเดินทาง และคนอ้วนบางคนอีก
แนะนำว่า ลองปั่นคันนี้ดูก่อนสักหนึ่งสัปดาห์ก่อนเอาลงสนามจริง เพราะแฮนด์แคบมากเมื่อเทียบกับจักรยานธรรมดา เลยทำให้การทรงตัวเวลาเลี้ยวค่อนข้างลำบากในระยะแรก ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ถ้าคุณปั่นแต่จักรยานธรรมดาที่แฮนด์กว้างมาตลอด เมื่อคุณมาเจอคันนี้ มันจะเหมือนเริ่มปั่นจักรยานใหม่เลย 555 แต่ไม่ต้องกลัวไม่นานเดี๋ยวก็ชินเอง บางครั้งปั่นจักรยานขึ้นหมอนบนถนน ช่วงแรกๆ ยังไม่ชิน เผลอยกล้อก็มี ดีนะที่ไม่ตก วิธีแก้ข้อนี้เวลาขึ้นหมอนให้กดแรงลงไปที่บาร์มันจะได้ไม่ยกล้อ คันนี้มีทั้งรุ่นมีเกียร์และไม่มี เกียร์ ราคาก็แตกต่างกันไป คันของเราเป็นแบบไม่มีเกียร์ ปั่นแล้วก็แอบแปลกๆ แต่อย่างว่าปั่นในกรุงเทพ ที่รถติดเป็นวิสัยอยู่แล้ว จะมีเกียร์ไป ก็คงไม่ได้ใช้ ข้อดีอีกหนึ่งข้อ ที่ชนะใจเราให้ซื้อมาคือระบบสายพาน ถ้าเป็นจักรยานทั่วไปก็จะเป็นระบบ โซ่ ซึ่งก็ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น ให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนขากางเกง หรือขาเราเองอยู่เป็นประจำ ระบบสายพาน ออกแบบมาให้ไม่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่น เพราะฉะนั้นวางใจได้เลยว่าจะขากางเกงของคุณจะไม่เลอะเทอะแน่นอน
หลังจากที่ใช้มาแล้วเกือบสองเดือน เริ่มชินกับจักรยานคันนี้แล้ว ตอนซื้อมาเจ้าของร้านสาธิตวิธีการ พับให้ดู ไม่ถึง 15 วินาที พับเสร็จเตรียมเข็นได้เลย พอเราลองเอง มันไม่ง่ายอย่างที่คิด ผ่านไป 2 นาทีแล้ว ก็ยังไม่เสร็จ 555 ต้องกลับมาบ้านลองพับอีกรอบ ตอนนี้เซียนแล้ว เวลาพับที่รถไฟฟ้า หรือพับเก็บลงกระเป๋าที่โรงแรม จะต้องมีคนมาดูตลอดเวลา เหมือนเราเล่นกลให้เขาดู ครั้งแรกที่พับนี้ มาดูกันประมาณ 5 คนได้มั้ง อายจริงจัง เพราะยังพับไม่เก่ง อยากจะบอกทุกคนว่า เลิกดูได้ไหมคะ แรงกดดันมันเยอะเกิน เจ้าของร้านตอนที่ซื้อมาบอกว่า น้องปั่นมาไม่ว่าน้องจะเหงื่อแตกขนาดไหน มันไม่สำคัญเท่ากับน้องใช้เวลาพับนานขนาดไหน ถ้าน้องใช้เวลาพับเกิน 30 วินาที พี่แนะนำว่าหิ้วมันไปแบบนี้เลยเถอะ อายเขา 555 คำพูดนี้ยังจำมาจนถึงทุกวันนี้
Article and photos by Natt (ณัฐรีย์)

1 มี.ค. 2556

BMW เปิดตัว นวัตกรรมจักรยานพับไฟฟ้า

|0 ความคิดเห็น

จักรยานพับไฟฟ้า BMW

BMW เปิดตัวนวัตกรรมจักรยานที่เหมาะใช้งานร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบขนาดเล็ก BMW i3 โดยมีแนวคิดเพิ่มความสะดวกในการไปไหนมาไหนในเขตเมือง จักรยานพับไฟฟ้า BMW มีชื่อรุ่นว่า BMW i Pedelec (Pedal Electric Cycle) การชาร์จแบตเตอรี่สามารถทำได้ทั้งการชาร์จแบตปกติและชาร์จจากการปั่นจักรยานที่จะช่วยสะสมพลังงานไปชาร์จแบตอีกที ตัวถังทำมาจากอลูมิเนียมและคาร์บอนไฟเบอร์ทำให้น้ำหนักเบา โดยมีน้ำหนักรวมประมาณ 20 กิโลกรัม ใช้ดิสก์เบรคทั้งล้อหน้าและล้อหลัง มี 3 เกียร์ BMW ออกแบบให้พับจัดเก็บได้ง่ายมากจนเป็นหนึ่งในจุดเด่นของจักรยานคันนี้
จักรยานพับไฟฟ้า BMW

ที่มา : BMW Blog

29 ม.ค. 2556

จักรยานดองกี้ จักรยานเอนกประสงค์บรรทุกได้ทุกแบบ

|0 ความคิดเห็น

จักรยานดองกี้ จักรยานเอนกประสงค์บรรทุกได้ทุกแบบ

จักรยานดองกี้

จักรยานดองกี้ ถูกออกแบบให้มีคานสี่เหลี่ยมที่มีความยาวจากล้อหน้าจรดล้อหลัง คานสี่เหลี่ยมนี้เป็นรูปทรงที่แข็งแรง การวางกลางตัวรถทำให้จักรยานมีความสมดุล สำหรับล้อ..ผู้ออกแบบเลือกใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว ซึ่งถือเป็นวงล้อขนาดที่เล็กที่สุดที่สามารถรับน้ำหนักได้ดี 
จักรยานดองกี้

ดังนั้นการออกแบบที่มีคานตรงกลางและล้อไม่ใหญ่เกินไป จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในตัวเมือง โดยเฉพาะการบรรทุกของ ที่ถือเป็นภารกิจหลักของจักรยานดองกี้คันนี้เลย จักรยานดองกี้ออกแบบโดยนักออกแบบอุตสาหกรรม เบน วิลสัน
จักรยานดองกี้
ที่มา : donkybike.com, Ben Wilson

4 พ.ย. 2554

จักรยานพับ Bike Friday

|1 ความคิดเห็น
จักรยานพับ Bike Friday

เมื่อพูดถึงการเดินทางแล้วก็มีอยู่หลายประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือการปั่นจักรยานไปตามที่ต่าง ๆ แต่ที่สะดวกที่สุดก็คือจักรยานพับที่จะสามรถไปกับเราได้ทุกที่ สะดวกสบายในการขนย้าย สามารถติดตัวเราไปในที่ต่าง ๆ ได้ เราขอแนะนำให้รู้จักกับจักรยาน Bike Friday เรามาดูสิว่าจักรยานพับค่ายนี้มีที่มาอย่างไร

“ไบค์ ฟรายเดย์” หนึ่งในสุดยอดตำนานรถพับจากสหรัฐอเมริกา ที่สองพี่น้องตระกูล Scholz คือ Alanc และ Hanz ชาวอเมริกันเชื้อสายสก๊อตแลนด์ แห่งเมือง Eugene จากรัฐ Oregon ทางตอนเหนือของสหรัฐฯ ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตรถจักรยานพับได้และส่งออกไปจำหน่ายกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

Alan Scholz ได้ตั้งชื่อจักรยานของเขาตามชื่อของตัวละครในนิยายเรื่องดัง “ชีวิตและการผจญภัยของ โรบินสัน ครูโซ” (Robinson Crusoe) หรือที่เรียกกันย่อ ๆ ว่า โรบินสัน ครูโซ ที่เขียนโดย “แดเนียล ดีโฟ” ที่ทุกคนรู้จักกันดี เป็นเรื่องของชาวสก๊อตแลนด์คนหนึ่งที่เรืออับปางแล้วไปติดอยู่บนเกาะ ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด จนได้พบกับเพื่อนแท้เป็นทาสผิวดำที่คอยช่วยเหลือให้ “โรบินสัน ครูโซ” อยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายต่าง ๆ นา ๆ ระหว่างอยู่บนเกาะนี้และเป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากเขาจึงตั้งชื่อให้ชายผู้นี้ว่า Friday หรือเรียกขานกันเต็ม ๆ ว่า Man Friday อันเลนให้เหตุผลว่าจักรยานพับได้ของเขาเปรียบเสมือนนาย Friday เพื่อนผู้ซื่อสัตย์ในนิยายเรื่องนี้นี่แหละ ที่เป็นเพื่อนคู่กายคนเดียวที่คอยสนับสนุนช่วยเหลืออยู่อย่างเงียบ ๆ ช่วยให้เราได้เดินทางไปสู่จุดหมายที่ต้องการด้วยความสวัสดิภาพ คำว่า Bike Friday จึงเป็นคำที่ให้ความหมายลึกซึ้งที่บ่งบอกถึงความเป็นชาวสก๊อตแลนด์และความเป็นจักรยานคู่ชีพที่ทรหดอดทนของนักเดินทาง

Bike Friday มีโรงงานเล็ก ๆ ตั้งอยู่ที่เมือง Eugene ในรัฐ Oregon ของสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองหนึ่งของอเมริกาที่ได้รับการยกย่องว่าให้ความสำคัญกับการใช้จักรยานเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ มีคนทำงานที่นี่ราว 30 คน ยังคงใช้วีการผลิตและประกอบจักรยานด้วยมือทั้งหมด ด้วยความที่เป็นกิจการแบบครอบครัวและเจ้าของเองสืบเชื้อสายมาจากคนสก๊อตแลนด์ที่มีความทรนงองอาจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ครอบครัวตระกูล Scholz จึงคงความเป็นเอกเทศและยืนหยัดสู้กับกระแสทุนนิยมของอเมริกาอย่างเหนียวแน่น เขาปฏิเสธข้อเสนอที่เป็นเงินก้อนโตจากบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งในอเมริกาและยุโรปที่ต้องการซื้อกิจการและลิขสิทธิ์การออกแบบรถพับของ Bike Friday ของเขา ปัจจุบัน Hanna ลูกสาวคนโตของ Alan ได้เข้ามาช่วยครอบครัวในการบริหารงานและเริ่มขยายตัวส่งรถออกไปยังประเทศต่าง ๆ มากขึ้น

Tikit – City Folding Bike Series

City Bike Series เป็นรถที่ Bike Friday ออกแบบมาให้ใช้ในเมืองโดยเฉพาะ ใช้รถพับในการเดินทางไกลและรอนแรมท่องโลกไปในที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะองศาของรถถูกออกแบบมาให้นั่งได้สบาย สามารถนั่งปั่นเดินทางไกลกันเป็นวัน ๆ ได้โดยไม่เมื่อย เฟรมทำด้วย hi grade chromoly ตัวรถแข็งแรงน้ำหนักเบา สามารถติดตั้งกระเป๋าเดนิทางได้หลายใบสำหรับเก็บสัมภาระได้มากโดยไม่ทำให้รถสูญเสียการทรงตัว เมื่อพับแล้วจะมีขนาดพอเหมาะ สามารถนำขึ้นเครื่องบินหรือรถโดยสารได้สะดวก รถในซีรี่ส์นี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มรถถับสำหรับ Touring 

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง