ss
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Product Reviews แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Product Reviews แสดงบทความทั้งหมด

8 ส.ค. 2555

TREK Domane 6.2 นวัตกรรมสำหรับคนพิเศษ

|0 ความคิดเห็น
TREK Domane 6.2 นวัตกรรมสำหรับคนพิเศษ

TREK Domane 6.2
การพัฒนาเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดไม่หยุดแค่ปัจจุบัน แต่มันคืออนาคต คือคติของผู้ผลิตที่ไม่ยึดติดกับอดีตและเพิ่มขีดความสามารถกับผู้ปั่น เรากำกลังพูดถึงผู้ผลิตจักรยานรายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง Trek และสิบปี ที่ Trek สร้างความแปลกใหม่ให้แก่วงการและยกระดับมาตรฐานของผู้ผลิตจักรยานให้มากกว่าแค่คำว่าดี แต่ต้องดีกว่า การพัฒนารถเพื่อนักแข่งชั้นยอดเกิดขึ้นพร้อมกับเมื่อโลกได้สร้างคนที่ชื่อ Lance Arm Strong การคว้าแชมป์ Tour de France 7 สมัย บนจักรยาน Trek เพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนารถเพื่อบรรลุเป้าหมายของการแข่งขันโดยนำมาตรฐานรถที่ใช้ในการแข่งขัน มาเป็นรถที่ขายทั่วไปในท้องตลาด สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่นิยมชมชอบรถ Trek มาก ยิ่งขั้นฮีโร่ไม่ได้มีเพียงแค่ Lance Arm Strong เพียงคนเดียว หลายนักกีฬาดาวเด่นผู้ที่มีส่วนช่วยผลักดันให้ Trek ต้องพัฒนารถของตนเป็นเลิศ ภายใต้ชื่อ Trek Madone แต่นักกีฬาที่ทำให้ Trek ต้องยอมออกรถมาเพื่อเค้าซึ่งมากกว่าการทำสีพิเศษ มันไม่ง่ายเลยที่ Trek จะยอมคิดค้นรถมาเพื่อตอบสนองการทำงานในแบบที่เหมาะสมกับเส้นทางการแข่งขัน หากผู้นั้นไม่ได้มีชื่อว่า Fabian Cancellara

ใช่แล้วครับรถที่เกิดมาเพื่อ Fabian Cancellara ต้องไม่ธรรมดา ถือเป็นการพลิกโฉมหน้าของวงการรถถนนเลยทีเดียว ด้วยผลงานการแข่งขับแบบ One Day Race ที่โดดเด่น เรียกว่า The Classic อย่างเช่น Paris Roubaix/ Tour of Flander/ Strade Bianche เป็นต้น Fabian Cancellara ได้รับฉายาว่า นักรบสปาตัน ซึ่งก่อนหน้าที่ Trek ก็ได้ออกแบบลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเค้าบน Madoe 6.0 ssl Project One Spartacus เท่านั้นยังไม่พอ Trek ได้สร้างรถที่เกิดมาเพื่อนักรบในตำนานที่เกิดมาเพื่อรับบทโหดในทุก ๆ เส้นทางของ The Classic มันถูกเรียกว่า Domane
TREK Domane 6.2


เจ้า Domane ถูกจับคู่กับ Fabian Cancellara ลงสนามแข่งขันรายการ Strade Bianche เส้นทางที่เต็มไปด้วยหิน Pave หรือหิน Cobble คือเส้นทางโบราณที่ใช้สัญจรในสมัยอดีต Trek ปิดเป็นความลัยเงียบสนิทสื่อต่าง ๆ แทบไม่รู้เรื่องนี้กันมาก่อน ความมาแตกตอนที่ Fabian Cancellara คว้าแชมป์รายการนี้อย่างขาดลอย ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่แน่ชัดทิ้งไว้กับความประหลาดใจทั่วทั้งวงการ หลังจบการแข่งขั้น Strade Bianche ทุกสื่อต่างขุดคุ้ยตามล่าหาความจริงว่าเจ้ารถคันดำ ๆ ที่ Fabian Cancellara คว้าแชมป์มันมีชื่อว่าอะไร ทำจากคาร์บอนเกรดไหน มันทำงานยังไง เพื่อให้หายสงสัยหลังจากนั้นไม่นานการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของเจ้า Domain ก็จัดขึ้นที่ประเทศเบลเยี่ยมสร้างความประหลาดใจให้กับทุกสื่อ เมื่อได้รู้ว่าหัวใจของเจ้า Domane คือระบบ ISO Speed

ISO Speed: Trek ใช้เวลาค้นคว้าตลอดระยะเวลา 2 ปีเต็ม เพื่อสู้กับเจ้าหิน Pave หรือหิน Cobble คำตอบอยู่แค่ต้องทำระบบกันสะเทือนหรือระบบซับแรงกระแทก ที่สามารถเอาชนะอุปสรรค์ที่มากกว่ารถถนนทั่ว ๆ ไป แนวคิดที่แตกต่างเริ่มจากการแยกท่อนั่งออกจากตัวถัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ บังเอิญวิศวกร Trek คิดได้และก็ทำได้ด้วย การแยกชิ้นระหว่างท่อนั่ง กับท่อนอน แยกกันเป็นอิสระ โดยมีวงแหวนที่เปรียบเสมือนบูช ยึดทั้งสองจุดนี้ไว้ด้วยกัน โดยมีแผ่นยางกันกระแทกอยู่ด้านหน้า เมื่อทั้งสองส่วนถูกผนวกเข้าด้วยกัน ระบบ ISO ก็จะพร้อมทำงาน ทุก ๆ ครั้งที่มีการกระแทกจากด้านล่าง โดยผู้ปั่นจะต้องนั่งอยู่บนอานแนวท่อนั่งที่ส่งตรงจากหลักอานไปจนถึงท่อล่างของเฟรม มันสามารถรับแรงกระแทกด้วยการให้ตัวไปด้านหลังถึง 43.66%

ระบบ ISO Speed ไม่ได้มีแค่ระบบท่อนั่งกับหลักอ่านแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีระบบรับแรงกระแทกที่ตะเกียบหน้า ออกแบบมาพิเศษแนวโค้งซึ่งมุมองศาต่างจาก Trek Madone 1 cm เพื่อซับแรงกระแทกและรักษาสมดุลในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง บนพื้นถนนที่ไม่ราบเรียบ ตามติดด้วยระบบ Power Transfer Construction= E2;Down Tube ;BB90 ; Rear Whell connection: คอ E2 มุมองศา Endurance Fit เพิ่มความชันจากมุมอาศา H2 เล็กน้อย และลดขนาดคามยาวที่ Chain Stay เมื่อเทียบกับรถ Madone ซึ่งยังคงใช้กะโหลกแบบ BB90 ที่ Seat Stay and Chain Stay เพิ่มความแข็งแรงให้กับท่อที่ใหญ่กว่าและกว้างรองรับความแข็งแรงได้มากกว่า ด้วยเหตุผลเรื่องความแข็งแกร่งเจ้า Domane เลือกใช้คาร์บอน OCLV 600 ที่ออกแบบมาพร้อมกับระบบ 3S Integrated Chain Keeper คือตัวกันโซ่ตก ที่เน้นความสำคัญเมื่อต้องเจอการกระแทกแบบหนักหน่วง ลดปัญหาโซ่ติดได้เป็นอย่างดี Trek Domane ได้ออกแบบระบบเดินสายที่ท่อใหม่หมด และยังคงติดตั้งระบบ Duo Trap ไว้ที่ Chain Stay เหมือนเดิม

นอกเหนือจากนี้ Trek Domane ยังมาพร้อมกับชุดแฮนด์ Bontrager Carbon Iso Zonebar ที่เซาะร่องสำหรับใส่เจลหรือใยผ้าที่นุ่มกระซับเมื่อสัมผัสกับแฮนด์ ล่าสุด Trek Domane คว้าแชมป์ในรายการ Paris Roubaix รุ่น U23 จากหนุ่มน้อยวัน 19 ปี Bob Jungels ซึ่งถึงแม้รุ่นใหญ่อย่าง Fabian Cancellara จะไม่ได้ลงแข่งเพราะเกิดอุบัติเหตุในการแข่งขัน Tour of Flander ไปก่อนหน้านี้

เอาละครับนี่เป็นประวัติที่มาของเจ้า TREK Domane 6.2 แบบคร่าว ๆ ให้พอรับรู้กันไว้ ส่วนบททดสอบตัวรถ เราจะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป โชคดีมีความสุขในการปั่นจักรยานครับ...

ขอบคุณบทความบางส่วนจาก นิตยสาร RACE BICYCLE

1 มิ.ย. 2555

Campagnolo เผยโฉมจานหน้าคอมแพคสามใบ

|0 ความคิดเห็น
Campagnolo เผยโฉมจานหน้าคอมแพคสามใบ สำหรับแฟนพันธุ์แท้กรุ๊ปเซ็ตเสือหมอบคัมปันโญโล จากแดนมักกะโรนี ผู้ปรารถนาจะไต่เนินชันให้สบายแรงกว่าเดิม ปี 2013 นี้ 


Campagnolo Athena 2013
Campagnolo ประกาศแล้วว่าท่านจะไม่ต้องรอคอยให้เนิ่นนานอีกต่อไป ด้วยการเปิดตัวชุดจานหน้าคอมแพคสามใบไปแล้วเมื่อกลางเดือน พฤษภาคม


ชุดจานหน้าสามใบใหม่นี้ทางคัมปันโญโลประกาศว่ามี ยู-แฟคเตอร์ (ความกว้างระหว่างขาจานทั้งสองข้าง) และ คิว-แฟคเตอร์ (ความกว้างของตัวขาจาน) น้อยที่สุดในระดับเดียวกัน ทางคัมปันโญโลย้ำด้วยว่าทั้งความเร็วและความแม่นยำในการสับจานไม่แพ้แบบสองใบจานเดิม ๆ เลย


ชุดจานคอมแพคใหม่นี้จะเป็นจานสามใบน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ อัลตราไลต์ สร้างจากอลูมินัมเนื้อเหนียวที่เบาด้วยกรรมวิธีหล่อกลวง (ฮอลโลว์ ฟอร์จ) โดยจะมีชื่อรุ่นตานี้คือ อาธีนา (Athena) สำหรับชุดเกียร์ 11 สปีดในสีดำและสีเงินมัน เซ็นเทาร์ (Centaur) สำหรับชุดเกียร์ 10 สปีดสีดำ ดำด้านและแดง และเวโลเซ (Veloce) สำหรับชุดเกียร์ 10 สปีด สีดำและเงินมัน


เพื่อให้เข้าชุดกัน สับจานหน้าจึงถูกออกแบบใหม่หมดให้รับกับใบจานที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ตีนผีซึ่งมีทั้งแบบขาเฟืองสั้น (55 มม.) กลาง (72.5 มม.) กลาง+ (82 มม. สำหรับชุดอาธีนา เกียร์ 11 สปีดเท่านั้น) หรือขาเฟืองยาว (89 มม. เฉพาะเกียร์ 10 สปีด จะใช้ตัวตีนผีเหมือนกัน) ทั้งแบบ 10 และ 11 สปีดของอาธีนา, เซ็นเทาร์ และเวโลเซ รุ่นขาเฟืองยาวจะใช้ได้กับเซ็นเทารุ่น 10 สปีดที่มีฟันเฟือง 12 – 30 ซี่ เซ้นเทาร์มีเฟือง 10 สปีด ฟันเฟือง 12 -27 ซี่ ให้เลือกด้วยเช่นกันซึ่งชุดเฟืองท้ายดังกล่าวนี้จะใช้งานได้เงียบและทนทานขึ้น ด้วยเทคนิคการชุปแข็งและการรออกแบบสัดส่วนเรขาคณิตใหม่ ประกอบกับใช้เทฟลอนเคลือบในโซ่ของเซ็นเทาร์รุ่น 10 สปีดด้วย


ในชุดจานหน้า 2 ใบสำหรับเฟือง 11 สปีด คัมปันโญโลก็บอกว่าจะทำใหม่ด้วยเช่นกันในแบบฟันเฟือง 38 และ 52 ซี่ ส่วนแบบที่ทำใบจานด้วยคาร์บอนทั้งหมดในสัดส่วนเท่ากันนั้นจะมีจำหน่ายสำหรับเกียร์ 11 สปีด ทั้งหมดคือซูเปอร์เรคคอร์ด, เรคคอร์ด,คอรัส และอาธีนา โดยจะมีความยาวขาจานตั้งแต่ 165 – 175 มม. หนัก 663 กรัม สำหรับอาธีนา คาร์บอน 690 กรัม สำหรับคอรัส สำหรับรุ่นเรคคอร์ดเดิมซึ่งหนัก 650 กรัมและซูเปอร์เรคคอร์ดที่หนัก 607 กรัมนั้นจะเบาขึ้นอีกรุ่นละ 40 กรัม ที่ดียิ่งขึ้นคือชุดจานหน้าสองใบแบบ 36-52 นั้น จะใช้งานร่วมกับชุดเกียร์อีเลคทรอนิค คัมปันโญโลอีพีเอสได้ด้วย...


อีกไม่นานเกินรอ สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของกรุ๊ปเซ็ตสัญชาติอิตาเลียนแบรนด์นี้ คงจะนำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทย รอเสียตังค์กันได้แล้วครับ...


ที่มา นิตยสาร Sports Street

31 ม.ค. 2555

ชุดเกียร์ Sram XO 2012

|0 ความคิดเห็น
ชุดเกียร์ Sram XO 2012

Sram ถือกำเนิดขึ้นจาก สก็อตต์, รีย์ และแซม ปี 1987 ที่ชิคาโก, อิลลินอยน์ สหรัฐอเมริกา ชุดเกียร์ Sram เป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงในปี 1991 โดยกล้าที่จะต่าง เปิดตัวชุดเกียร์ที่เรียกกันว่า Grip Shift ซึ่งมีหน้าตาคล้าย ๆ กับคันเร่งมอเตอร์ไซค์ ด้วยการบิดข้อมือ ขึ้นลงเบา ๆ อัตราทด 1:1 ตีนผี จะตอบสนองได้รวมเร็วทันใจ เป็นที่ฮือฮาว่านี่แหละคือสิ่งที่ใช่ และเป็นการใช้งานร่วมกับเมาเท่นไบค์ได้อย่างสมเหตุสมผล โดยเฉพาะทีมแข่งในยุคปี 1997 อย่างทีม Sunn-Nike ทีม Volvo-Cannondale มั่นใจเลือกชุดเกียร์ Sram ลงแข่งขันสนาม UCI Mountain bike World cup ทำให้ภาพลักษณ์ Sram กับรถ Cannondale โดยมี คาเดล อีแวนส์ ไล่ล่าคว้าแชมป์ระหว่างการแข่งขัน ทุกจังหวะสับเกียร์นั้นช่างเร้าใจกองเชียร์

ชุดเกียร์ Sram XO 2012
Sram XO 2012

ระบบ Twister ของ Sram ยังคงมีแค่ 9 เกียร์ ทำให้ระบบ Trigger เข้ามาแทนที่ แต่ยังคงอัตราส่วน 1:1 ไว้เหมือนเดิม สามารถตอบสนองความรวดเร็วทันใจเพียงแค่ใช้นิ้วโป้ง กดขึ้นลง ว่ากันว่าระบบนี้เวิร์ค เนื่องจากนิ้วที่เหลืออีก 4 นิ้วกำแฮนด์ได้ถนัดมือ ทำให้การบังคับรถระหว่าเปลี่ยนเกียร์ ขึ้นเนินลงเนินมีประสิทธิภาพดีกกว่า นอกจาก Sram จะมุ่งมั่นทำชุดขับเคลื่อนให้ขึ้นลงได้รวดเร็วและแม่นยำ หัวใจสำคัญที่ไม่เคยละเลยก็คือ เรื่องน้ำหนัก ต้องเบากว่าคู่แข่ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องไม่เป็นรอง เมื่อมองดูความจริงแล้ว บางชิ้นส่วนอาจจะไม่เบากว่าคู่แข่งไปทั้งหมด เรามาวิเคราะห์เจาะลึกกันดูหน่อยครับว่า ปี 2012 Sram XO ปล่อยหมัดเด็ดอะไรออกมา

Fly your colors คอนเซ็ปต์ปีนี้ มีสีให้เลือก 2 สี คือสีดำ กับสีเงิน แต่ดูเหมือนการเปิดตัวเจ้า XO จัดว่าเป็นชุดขับเคลื่อนระดับรองท็อปของ Sram ประกอบไปด้วย มือเกียร์ ตีนผี ชุดจาน สับจาน เฟือง ดิสเบรก โซ่ คือรุ่น 1091 R เชนไกค์


27 ม.ค. 2555

ตีนผี ข้าสั้น ขายาว ต่างกันอย่างไร

|1 ความคิดเห็น

Shimano ทำตีนผีขาสั้นยาวแตกต่างกัน 3 รหัสคือ

1.        SS ซึ่งจะสั้นที่สุด และใช้กับเสือหมอบที่มีจานหน้า 2 จานเท่านั้น
2.        GS สำหรับเสือหมอบจะเป็นตีนผีขายาวซึ่งจะใช้กับจานหน้า 3 จาน (52-42-30) แต่ถ้าเป็นของเสือภูเขาจะถูกเรียกเป็นตีนผีขาสั้น
3.        SGS เป็นตีนผีที่ขายาวที่สุด
ก่อนที่จะพูดเรื่องความแตกต่างของขาสั้น ขายาวนั้น สิ่งหนึ่งที่อยากจะเน้นก็คือ อย่าเพิ่งละเลยเรื่องพื้นฐาน มาดูตารางแสดงคุณสมบัติของตีนผีรุ่นต่าง ๆ กันก่อนดีกว่าครับ

ตีนผีทุก ๆ รุ่นจะมีสปริงอยู่ด้วยกัน 3 ชุด

   1. B-tension spring หรือสปริงที่อยู่ใน Hanger bracket หรือที่ที่เราขันยึดตัวตีนผีเข้ากับ drop out สปริงตัวนี้จะทำหน้าที่ดึงให้ hanger bracket ถอยไปด้านหลังตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เฟืองจ็อคกี้กระแทกกับชุดเฟืองท้าย โดยเฉพาะช่วงที่ใช้เฟืองท้ายใบใหญ่ที่สุด

  2.  Parallelogram link spring จะอยู่ระหว่าง inner link และ outer link ของขาบน
-   สำหรับตีนผีธรรมดา สปริงตัวนี้ทำหน้าที่ดึงให้ขาของตีนผีขยับกลับออกไปด้านนอก โดยจะเกี่ยวจาก link pin ตัวหลังของ outer plate ไปยัง link pin ตัวหน้าของ inner plate พูดง่าย ๆ คือเป็นตัวถึงให้ตีนผีขยับเพื่อเปลี่ยนเกียร์จากเฟืองใหญ่ลงมายังเฟืองเล็ก
-    ส่วนในตีนผี reverse หรือ Rapid rise สปริงตัวนี้จะเกี่ยวจาก link pin ตัวหลังของ inner plate ไปยัง link pin ตัวหน้าของ outer plate สปริงตัวนี้จึงทำหน้าดึงในทิศทางตรงกันข้ามแบบปกติ คือ จะดึงให้ขาของตีนผีขยับเข้าด้านในแทน หรือเป็นตัวดึงให้ตีนผีขยับเพื่อเปลี่ยนเกียร์จากเฟืองเล็กขึ้นไปยังเฟืองใหญ่

3.   สปริงใน pulley cage bracket สปริงตัวนี้จะทำหน้าที่ดึงให้ขาล่างหรือ pulley cage งอเข้าหาขาบนตลอดเวลา โดยสปริงตัวนี้จะทำหน้าที่ร่วมกับ B-tension spring ในการดึงให้โซ่ตึงตลอดเวลา ที่ต้องกล่าวให้เข้าใจแบบนี้ก่อนเพราะว่าจะได้หลับตานึกภาพการทำงานไปด้วยกันได้ไงครับ

19 ธ.ค. 2554

ถ่ายทอดพันธุกรรมเพื่อนำ Di2 สู่ Ultegra 2012

|0 ความคิดเห็น
การถ่ายทอดพันธุกรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการส่งผ่าน DNA ที่ทำให้คู่แข่งทางการตลาดตั้งตัวแทบไม่ติด Shimono เลือกที่จะพัฒนาระบบ Di2 จากรุ่นสู่รุ่น มากกว่าการที่จะพัฒนาระบบเกียร์ให้มี 11 Speed โดยเสนอทางเลือกให้กลับกลุ่มลูกค้าที่อยากใช้ระบบ Di2 แต่ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายมากเป็นการตลาดที่แยบยล เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังอยู่ในภาวะฝืดเคือง ทำให้ชุดขับเคลื่อน Shimano Ultegra Di2 ถือกำเนิดขึ้นมา พร้อมกับคำถามที่ว่า DNA1 ที่ถูกถ่ายทอดมาจาก Dura-ace Di2 นั้นจะดีเหมือนกันมั้ย และมียีนเด่น ยีนด้อย ต่างกันอย่างไรบ้าง

Shimano ได้พัฒนาระบบเกียร์ไฟฟ้า Di2 มาถึงจุดที่ให้ความแม่นยำ เที่ยงตรง รูปทรงอันทันสมัยและฉับไว ด้วยการสัมผัสปุ่มคอนโทรลเบา ๆ ระบบเกียร์ก็จะทำงานตามคำสั่ง ดังนั้นระบบ Di2 จึงเป็นที่ยอรมรับและพิสูจน์แล้วจากทีมแข่งระดับ Protour ว่าสามารถใช้งานได้จริง ซึ่งระหว่างการใช้งานในรูปแบบการแข่งขัน สามารถทนทานต่อแรงกระแทก โดยเฉพาะจุดติดตั้งแบตเตอรี่ มีความมั่นคงและแน่นหนา ในการชาร์จไฟหนึ่งครั้งรถสามารถวิ่งไปได้ไกลกว่า 2,000 กม. ถึงแม้ระหว่างเส้นทางปั่นแบตเตอรี่ค่อย ๆหมดลง ก็ยังคงสามารถปั่นต่อไปได้ เนื่องจากตีนผียังคงพอทำงานาอยู่ในระดับที่พอเปลี่ยนเกียร์ที่จำเป็นต้องใช้ ไม่หวาดหวั่นแม้สภาวะฟ้าฝนไม่เป็นใจ หากสังเกตในรายการแข่งขันหลายต่อหลายรายการที่มีฝนตกหนักทีมแข่งอาทิ Rabobank/HTC-Highroad/Euskaltel-Euskadi,Skil-Shinmano/Sky/Leopard-Trek ยังคงไว้วางใจใช้ระบบ Di2 ไม่เปลี่ยนเป็นระบบเคเบิ้ลแม้แต่ทีมเดียว แถมยังลุยน้ำลุยโคลนได้สบายอีกด้วย ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นกับระบบ Di2 ก็คือ ราคาที่ค่อนข้างแพง ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่กับการขยายกำลังซื้อถึงแม้ผู้บริโภคจะทราบดีว่าระบบ Di2 น่าใช้น่าทดลองเพียงใด แต่ด้วยกำลังซื้อที่แตกต่างกัน ทางออกของ Shimano ก็คือ การให้กำเนิดชุดขับเคลื่อน Ultegra Di2 สำหรับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้อย่างทันท่วงที Shimano Ultegra Di2 ถูกโคลนนิ่งมาจาก Shimano Dura-ace Di2 ดังนั้นระบบการทำงานจึงเหมือนกัน แตกต่างกันบ้างในเรื่องของวัสดุที่ใช้ ถึงเวลาวิเคราะห์เจาะลึกกันแล้วว่า Ultegra Di2 มีความเหมือนหรือแตกต่างกัน Dura-ace Di2 ตรงไหนบ้าง


Ultegra Di2 2012 ประกอบไปด้วย ชิ้นส่วนทั้งหมด 8 ชิ้นไม่นับชุดบันได้ คือ มือเกียร์,สับจาน,ตีนผี,จานหน้า,เฟืองหลัง,โซ่,ก้ามเบรก และแบตเตอรี่ แต่ปัจจัย 4 ของชุดขับเคลื่อน Ultegra Di2 คือ มือเกียร์,สับจาน,ตีนผี และแบตเตอรี่ เนื่องจากชิ้นที่เหลือสามารถใช้ Ultegra แบบธรรมดาชดเชยกันได้

ปัจจัยแรก มือเกียร์ ของ Ultegra Di2 มีขนาดใกล้เคียงกับของ Dura-ace Di2 ก็เท่ากันมีเพียงขนาดด้านกว้างที่รู้สึกได้ว่าหนาขึ้นกว่าเล็กน้อย น้ำหนักของชุดมือเกียร์รวม 313 กรัม หนักกว่าของ Dura-ace Di2  อยู่แค่ 58 กรัม

ปัจจัยสอง สับจาน เปรียบเสมือนแขนของการทำงานในระบบ Di2 น้ำหนักตัว 162 กรัม เป็นรอง Dura-ace Di2 อยู่ 38 กรัม ถือว่าเล็กน้อยถ้าเทียบกับกลไกอัจฉริยะ ขึ้น/ลง ใบจานหน้าได้อย่างนุ่มนวล อีกทั้งยังสามารถปรับระยะห่างของสับจานกับแนวโซ่ให้สัมพันธ์กันอีกด้วย

ปัจจัยสาม ตีนผี ก็เปรียบเสมือนขาของการทำงานในระบบ Di2 อีกเช่นกัน น้ำหนักตัว 270 กรัม ต่างจากรุ่นพี่อยู่ 45 กรัม แต่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและแม่นยำ ไม้เด็ดของตีนผี Ultegra Di2 สามารถรองรับเฟืองหลังใบใหญ่ได้ถึง 28 ฟัน ในขณะที่ Dura-ace Di2 รับได้เพียง 27 ฟันเท่านั้น

ปัจจัยสี่ แบตเตอรี่ เปรียบเสมือนหัวใจของการทำงานในระบบ Di2 น้ำหนักตัว 71 กรัม เท่ากันกับผู้พี่ Dura-ace Di2 สามารถใช้ทดแทนกันได้ แบตเตอรี่กันน้ำได้ 100% และในการชาร์จหนึ่งครั้ง รถสามารถใช้งานในระยะทาง 2,000 กม. การทำงานที่กินแบตเตอรี่มากที่สุดคือ หน้าที่การทำงานของสับจานหน้า ถึงแม้จะใช้บ่อยครั้งสักเพียงใด ก็มั่นใจได้แน่ว่าถึง 2,000 กม.แน่นอน

ทั้งหมดเป็นปัจจัย 4 ในการทำงานของชุดขับเคลื่อน Di2 ไม่ว่าจะเป็น Di2 ผู้พี่หรือ Di2 ผู้น้องก็ตามซึ่งชิ้นส่วนที่เหลือ จานหน้า โซ่ เฟือง เบรก สามารถทดแทนกันได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นรหัส Di2 ในส่วนของการใช้งานจริง Ultegra Di2 และ Dura-ace Di2 ทั้งคู่ยังสามารถเปลี่ยนเกียร์ในแบบที่เกียร์ระบบธรรมดาทำไม่ได้ ช่วยในเรื่องการคอนโทรลรถในขณะที่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ปัจจุบันผู้ผลิตเฟรมชั้นนำทั่วโลก ออกแบบเฟรมให้สามารถติดตั้งชุดขับเคลื่อน Di2 ได้ด้วย เหมือนเป็นสัญญาณบอกเหตุไว้ว่า อนาคตอันใกล้นี้ระบบไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่ระบบเกียร์ในแบบธรรมดาอย่างแน่นอน

ขอบคุณบทความจาก นิตยสาร Sport Street

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง