ss
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pruduct Test แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Pruduct Test แสดงบทความทั้งหมด

10 พ.ย. 2554

NEW HAYES PRIME : เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในเบรก

|1 ความคิดเห็น
NEW HAYES PRIME : เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในเบรก

Prime คือการออกแบบใหม่ล่าสุดจากเทคโนโลยี Multiple industry ที่สร้างขึ้นโดย Hayes ผู้นำในด้านเบรก Hydraulic รายแรกโดยมีการยกระดับความเปลี่ยนแปลง 4 More ในด้าน 1.ให้กำลังสูงขึ้น (More Power) 2.ระบบกลไกตอบสนองได้แน่นขึ้น (More Mechanical Leverage)  3.การทำงานของระบบ Hydraulic ที่เต็มประสิทธิภาพ (More Hydraulic Power) 4.อุปกรณ์ดีไซน์ใหม่ล่าสุด (More Component Power)

More Power การออกแบบ Prime เพิ่มองศาของช่องน้ำมันให้ทำมุม 10 องศา เพื่อตอบสนองต่อการสั่งงานสู่ Master Cylinder ได้ทันที และด้วยดีไซน์นี้ทำให้มือเบรกอยู่ใกล้กับ Grip มากขึ้น ทำให้การกำเบรกง่าย กระชับ อิสระ แม้เพียงนิ้วเดียวก็สั่งงานได้ตามประสงค์

More Components Power Hayes เลือกสรรใบจานดิสก์เบรก 2 ชั้น เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาใช้กับ Hayes Prime ที่กำจัดเสียงดัง ให้ความยืดหยุ่นสูงขึ้น พร้อมลาย Sweeping Fin design เป็นดีไซน์ไม่กินผ้าเบรก แต่สามารถตอบสนองต่อการทำงานของผ้าเบรกได้เต็มที่


นอกจากนี้แล้ว Hayes Prime ยังมีการอัพเกรดระบบส่งน้ำมันให้ความคล่องตัว ส่งผลให้มีกำลังการทำงานสูงขึ้นกว่ารุ่น Stroker ทำให้กำลังการสั่งงานระหว่างช่องน้ำมันไปยัง Caliper1 ตอบสนองได้มากและรวดเร็วดียิ่งขึ้น

สำหรับวัสดุที่ใช้ทำตัวเบรก Hayes Prime เลือกที่จะใช้เฉพาะสุดยอดวัสดุ เหมาะกับการทำงานของระบบเบรกอย่างการนำแผ่นนิเกิลที่มีคุณสมบัติเบา แข็งแรงมาใช้ การนำไททาเนียม และอลูมิเนียมอโนไดซ์มาใช้ ทำให้ Hayes Prime เป็นเสมือนสุดยอดการออกแบบเพื่อให้ลดน้ำหนัก แต่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีกว่า ดีไซน์ฝาปิดช่องน้ำมันใหม่ลาสุดจากรุ่น Stoker ที่มีซีลยาง เปลี่ยนเป็นระบบปิดสนิท ทำให้ป้องกันการซึมของน้ำมัน

6 ส.ค. 2554

Trainer : ทดสอบเทรนเนอร์ CycleOps Power

|0 ความคิดเห็น

เราได้นำเทรนเนอร์ CycleOps Power Trainer มาทดสอบจำนวน 2 รุ่น 2 แบบ ว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของเรา ๆ ท่าน ๆ ได้หรือไม่อย่างไร มาติดตามกันเลยครับ...


JetFluid Pro
วัสดุทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรง การเชื่อมต่อที่แน่นหนา เมื่อกางขาเทรนเนอร์ออกแล้วมั่นคงดีครับ การติดตั้งเข้ากับรถจักรยานทำได้ง่านดายเพียงแค่วางตำแหน่งล้อให้ตรงกับลูกกลิ้งแล้วหมุนล็อค ซ้าย/ขวา พับตัวล็อคสีเหลืองด้านหลังขึ้นลูกกลิ้งก็เข้าไปสัมผัสกับตัวยางเป็นอันว่าพร้อมแล้วสำหรับการทดสอบในครั้งนี้ เพื่อความแม่นยำและจับความรู้สึกของเทรนเนอร์ว่ามีประสิทธิภาพการทำงานแตกต่างจากพื้นถนนหรือไม่ เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนผู้ทดสอบใช้ชุดล้อ Power Tap ควบคู่เพื่อจับค่าพลังงานการออกแรง เจ้าตัว JetFluid Pro เป็นระบบน้ำมันที่ไม่หนืด ไม่หน่วง และไม่มีเสียงดังให้รำคาญหากต้องปั่นอยู่ในบ้านพักหรือในคอนโด

การทดสอบด้วยการนั่งปั่น  “สมูท” การออกแรงและควบคุมรอบขาทำได้ง่าย การเพิ่มโหลด (ความหนักหน่วง) สามารถใช้อัตราทดเกียร์ของรถได้เลยไม่มีอาการกระตุก ผู้ทดสอบเปิด Power Tap ทดสอบความเร็วกับแรงเสียดทาน ซึ่งได้ผลแตกต่างจากพื้นถนน ค่อนข้างน้อยมาก ความเร็วและวัตต์ ที่ได้สามารถนำไปเทียบเคียงกับพื้นถนนจริงได้เลยครับ

การทดสอบด้วยการยื่นปั่น  “มั่นคง”  นอกจากข้อมูลที่ได้ไม่แตกต่างจากการนั่งปั่นแล้ว เจ้า JetFluid Pro สามารถตอบสนองความต้องการของนักปั่นที่ต้องการปั่นเทรนเนอร์ที่มากกว่าการออกกำลังกายในแบบทั่ว ๆ ไป สามารถรองรบการกระแทกและสปริ๊นท์ได้แบบสบาย ๆ จะยืน จะโยกจะขย่ม ไม่โยกเยกให้หวาดระแวงอีกด้วยครับ ฟิลลิ่งระบบน้ำมัน รุ่นเก่า ๆ ส่วนใหญ่พอปั่นไปนาน ๆ แล้วมันจะหนืด จนปั่นไม่ออก แต่สำหรับรุ่นใหม่ ๆ แล้วพัฒนาเรื่องนี้ให้ดีขึ้นเรียกว่ายิ่งปั่นยิ่งสนุกเลยทีเดียว

Super Magneto Pro
เป็นอีกหนึ่งตัวที่เราได้ทำการทดสอบ วัสดุและสีสันไม่แตกต่างจากตัว JetFluid Pro ความแข็งแรงก็ไม่ต่างกัน ต่างกันตรงที่เจ้ารุ่นนี้ ระบบการทำงานคล้าย ๆ แม่เหล็ก ซึ่งสังคมในเมืองยุคปัจจุบัน ถนนหนทางที่จะออกไปปั่นซ้อมลำบากจริง ๆ แต่เมื่อทดสอบเจ้าตัวนี้ ที่มีระบบการปรับการทำงานได้เป็น 4 แบบ 

การทดสอบด้วยการนั่งปั่น ผู้ทดสอบยังคงใช้ระบบวัตต์ มาทดสอบ ที่ภาพถนน แปลกแต่จริง ๆ ครับ นี่เรากำลังปั่นเทรนเนอร์อยู่จริง ๆ หรือเปล่าเนี่ย มันแปลกตรงที่เราใช้เกียร์ยังไงลูกล้อก็หมุนไปตามแรงเหวี่ยงของกำลังเหยียบของเรา ที่สุดไปกว่านั้นก็คือ ปกติปั่นเทรนเนอร์หากเราหยุดขา ล้อก็จะหยุดตาม แต่เจ้าตัวนี้มันไม่หยุดครับ มันค่อย ๆ ชะลอความเร็วลงเหมือนกับเราปั่นบนเส้นทางจริง ๆ ยังไงอย่างนั้นเลย ล้อมันฟรีได้ และเมื่อออกแรงปั่นอีกครั้ง มันก็เหมือนกับเรากำลังออกแรงพารถจักรยานพุ่งไปข้างหน้า ผู้ทดสอบขอให้คำว่า “Super สมูท” เลยแล้วกัน เป็นครั้งแรกที่ทดสอบเทรนเนอร์แล้วรู้สึกว่าเหมือนอยู่บนท้องถนนจริง ๆ

การทดสอบด้วยการยืนปั่น  ไม่รอช้าครับ เปลี่ยนภาพเป็นรูปภูเขาโดยด่วน ความหนักหน่วงเทียบเท่าความชันระดับ 10-20% ขึ้นอยู่กับการใช้เกียร์ ผู้ทดสอบใช้อัตราทดที่แรงเหยียบที่ 250 – 300 watt เราเช็คอัตราการเต้นของหัวใจควบคู่ไปด้วย ความรู้สึก ความเหนื่อย เหมือนเรากำลังยืนโยกขึ้นเขาไม่ผิดเพี้ยน ต่างกันแค่ตำแหน่งท่ายืนและมุมองศา ความลาดชัน ที่อาจจำลองกันได้ยาก

สรุป : เป็นเทรนเนอร์ที่น่าครอบครองมากเลยทีเดียว จะเลือกแบบ JetFluid Pro หรือว่า Super Magneto Pro คงแล้วแต่ความชอบใจ เรื่องราคาเท่าที่ทราบก็ไม่แพงซะด้วย ที่สำคัญจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจากตัวแทนนำเข้า คงได้ลุ้นกันว่าราคาเปิดตัวจะอยู่ที่เท่าไหร่ครับ

ทดสอบโดย นิตยสาร RACE BICYCLE

16 ต.ค. 2553

PRODUCT TEST : FOX 32 FLOAT R

|0 ความคิดเห็น
PRODUCT TEST : FOX 32 FLOAT R


          ในวงการผู้ผลิตโช๊คจักรยานนั้นมีผู้ผลิตอยู่หลายรายมีผู้ผลิตอยู่รายหนึ่งที่เข้ามาในตลาดนี้หลังรายอื่น แต่มีสินค้าที่โดดเด่นมาก ผู้ผลิตรายนั้นคือ Fox Racing Shox บริษัท Fox เริ่มต้นจากโช๊คให้กับมอเตอร์ไซด์ก่อน จากนั้นก็ผลิตโช๊คให้กับรถยนต์และรถเอทีวี จนล่าสุดเปิดตัวสินค้าโช๊คจักรยานในช่วงปี 2000 จนมาถึงปัจจุบัน
           โช๊คจักรยานของ Fox โดดเด่นด้วยประสบการณ์อันยาวนานของบริษัท และด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงโดยใช้ฐานการผลิตจากโรงงาน ในประเทศสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน Fox ผลิตโช๊คหน้าสำหรับจักรยานเสือภูเขาทุกประเภททั้งครอสคันทรี่ ฟรีไรด์ ดาวน์ฮิลล์
          Fox 32 Float R ที่นำมาทดสอบนี้เป็นโช๊ครุ่นเริ่มต้นของ Fox ใช้ระบบการทำงานแบบ Air Sping ที่ใช้การสูบลมเป็นตัวตั้งความแข็งอ่อนของโช๊ค ส่วนฟังก์ชั่นการปรับตั้งสามารถปรับได้เพียงรีบาวด์เพียงอย่างเดียวซึ่งนั่นก็เพียงพอแล้ว เพราะรีบาวด์เป็นฟังก์ชั่นจำเป็นพื้นฐานที่โช๊คทุกตัวควรจะมี
          โช๊คตัวนี้ใช้แกนโช๊ค 32 มม. อันเป็นขนาดที่ใช้กับโช๊คหน้าแบบครอสคันทรี และเทรล แกนโช๊คมีชุบ Hard Anodize ทำให้ผิวของแกนโช๊คมีความแข็งสูงขึ้น มีความทนทานรองรับการเสียดสีกันระหว่างแกนโช๊คกับปลอกกันกระแทกที่อยู่ภายในกระบอกโช๊ค ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
          โช๊ค Fox 32 Float R ตัวนี้ออกแบบมาให้สามารถปรับช่วงยุบได้ 3 ระดับ คือ 100 มม. 120 มม.และ 140 มม. โดยการถอดชิ้นส่วนภายในออกมาปรับ ซึ่งการปรับก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรสำหรับในการทดสอบครั้งนี้ ทางเราปรับช่วงยุบของโช๊คให้มีช่วงยุบ 100 มม.ในการทดสอบ
           การที่โช๊ครุ่นนี้มีแค่ฟังก์ชั่น รีบาวด์เพียงอย่างเดียวนั้นเพียงพอกับการใช้งานเบื้องต้นแล้วส่วนการปรับอีกอย่างที่สามารถทำได้ในโช๊คตัวนี้คือ การตั้งค่า Air Preload ด้วยการสูบลมด้วยแรงดันในค่าที่ต่างกัน ส่วนฟังก์ชั่นล๊อคโช๊คนั้นแม้ในโช๊คตัวนี้จะไม่มีแต่ก็สามารถทดแทนได้ด้วยการตั้งระยะ Sag ให้น้อย ๆ โช๊คก็จะมีความหนึบมากขึ้นไม่ยุบยวบยาบง่าย
ผลการทดสอบ
          ในการทดสอบครั้งนี้ได้ตั้งค่า Preload ให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวผู้ขี่เพื่อให้โช๊คทำงานเต็มประสิทธิภาพในการทดสอบครั้งนี้เราใช้ระยะ Sag ประมาณ 8 มม. จากนั้นก็ทำการปรับรีบาวด์โดยปรับไปตำแหน่ง (-) สุด แล้วบิดปุ่มรีบาวด์มาทางด้าน (+) 5 คลิก ใช้เส้นทางแบบคลอสคันทรีแต่ก็มีการลองทดสอบกระโดดบ้างเล็กน้อย ซึ่งผลการทดสอบ Fox Float R ให้ผลการทดสอบที่น่าพอใจตัวโช๊คมีความแข็งแรงเวลาเลี้ยวแคบ ๆ ด้วยความเร็วสูงสามารถควบคุมรถได้ดีทำให้ผลการเลี้ยวคม ไม่มีอาการแหกโค้งจากการให้ตัวของโช๊คส่วนการซับเก็บแรงกระแทกจากเส้นทาง โช๊คก็ทำได้ในระดับที่น่าพอใจซึ่งก็แล้วแต่ความพอใจของแต่ละคนหากต้องการโช๊คที่หนึบก็ต้องตั้งระยะ Sag น้อย (น้อยกว่า 10 มม.) ซึ่งอาจจะทำให้โช๊คซับแรงกระแทกได้ไม่เต็มที่ แต่ทำให้โช๊คไม่ยุบยวบยาบ แต่หากมีการตั้งระยะ Sag ที่เยอะ(มากกว่า 10 มม.) จะทำให้โช๊คซับแรงกระแทกได้มากกว่าแต่ก็อาจจะทำให้โช๊คยุบยวบยาบบ้างอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนซึ่งโช๊คตัวนี้สามารถตั้งระยะ Sag ได้โดยการเติมลมได้
           Fox 32 Float R ถึงแม้จะเป็นโช๊ครุ่นที่เริ่มต้นของ FOX แต่ก็เป็นโช๊คที่น่าใช้รุ่นหนึ่งแม้ไม่มีฟังก์ชั่นล็อคโช๊คแต่ก็เพียงพอกับการใช้งานประกอบกับการเป็นโช๊ค Air Spring ทำให้สามารถตั้งค่า Preload ได้ง่ายโดยการเติมลมซึ่งทำให้สะดวกในการปรับโช๊คให้เข้ากับน้ำหนักตัวผู้ขี่ ข้อดีอย่างหนึ่งของโช๊ครุ่นนี้คือการที่มีฟังก์ชั่นรีบาวด์เพียงอย่างเดียวทำให้โช๊คมีความทนทานมากกกว่าโช๊คที่มีฟังก์ชั่นเยอะ ๆ นอกจากนั้นโช๊คยังสามารถปรับตั้งระยะยุบได้หลายช่วงทำให้ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น


Speclfication :
ชื่อรุ่น : Fox Float R
ขนาดซางโช๊ค : 1.125 นิ้ว
ขนาดแกนโช๊ค : 32 มม.
วัสดุซางโช๊ค : อลูมินั่ม
วัสดุแกนโช๊ค : อลูมินั่ม
วัสดุกระบอกโช๊ค : แมกนีเซียม
ระบบแดมปิ้ง : Oil Rebound
ระบบสปริง : Air Spring
ระยะยุบโช๊ค : 100, 120. 140 mm.
ชนิดหูยึดโช๊ค : ISO-Type
น้ำหนัก : 1.70 กิโลกรัม

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง