ขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดีอุปสรรคครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเมื่อประเทศอิตาลี่ต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามครั้งนี้เป็นเหตุให้โรงงานของ Bianchi ถูกทำลายจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายพันธมิตร โรงงานที่ใช้ในการผลิตจักรยานเสียหายโดยสิ้นเชิง แต่ในปี 1946 โรงงานของ Bianchi ได้กลับคืนฟื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้งหลังมหาสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ Edoardo Bianchi ได้เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ในปีนี้เช่นกัน แต่กิจการของเขาก็ได้รับการดูแลและสืบทอดต่อมาโดยสมาชิกในครอบครัว
ปี 1949 ทีมแข่งจักรยาน Bianchi ที่นำโดย Fausto Coppi ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับโลกจักรยานด้วยการเป็นนักแข่งคนแรกของโลกที่ได้ครองแชมป์ในรายการแข่ง Tour de France และ Giro d’Italia ได้ในปีเดียวกัน และพ่วงด้วยการเป็นแชมป์ในรายการ World Championships อีกด้วย ในปี 1952 Coppi ตอกย้ำความยิ่งใหม่ให้ Biachi อีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ทั้ง Tour de France และ Giro d’Italia ได้ในปีเดียวกันเป็นครั้งที่สอง ได้รับการยกย่องให้เป็นทีมแข่งที่ดีที่สุดในเวลานั้น
ในปี 1965 โลกได้รู้จักกับ Felicia Gimondi แห่งทีม Bianchi ที่สามารถครองแชมป์ Tour de France ได้ในปีนี้ ในอีกสองปีต่อมา 1967 Gimondi ก็คว้าแชมป์ใน Giro d’Italia ได้เป็นผลสำเร็จ ปี 1973 Felicia Gimondi เป็นแชมป์อีกครั้งในรายการ World Championships ปี 1980 กิจการของ Bianchi ได้ร่วมเข้ากับบริษัทจักรยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี่ Piaggio Grop
หลังจากที่ Bianchi ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในยุโรปก็เริ่มขยับขยายมาตั้งสาขาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี 1981 ปี 1982 Bianchi เปิดสายการผลิต จักรยาน BMX ออกจำหน่ายในยุโรปเป็นครั้งแรก และปี 1984 เริ่มสายการผลิตจักรยานเสือภูเขาออกจำหน่ายในอเมริกาและยุโรปเป็นครั้งแรก
ต่อมาในปี 1985 Bianchi ได้ผลิตรถที่ชื่อว่า Centernario เพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปีของ Edoardo Bianchi เป็นรถที่นักสะสมต้องหามาประดับบารมีไว้อีกคัน ซึ่งรถทั้งคันใช้สีพิเศษ Black nickel-plate ผลิตออกมาในจำนวนจำกัดเป็น Limited Edition
ปี 1986 ทีม Bianchi โดย Moreno Argentin คว้าแชมป์ในรายการ World Championships ปี 1987 Bianchi ได้เข้าชื้อกิจการของ Puch ซึ่งเป็นผู้ผลิตจักรยานรายใหญ่ของประเทศออสเตรีย
ปี 1991 นักแข่งเสือภูเขา Bruno Zenchi ใช้รถ Bianchi คว้าแชมป์ในรายการ MTB World Championships ในประเภทดาวน์ฮิลล์ได้เป็นครั้งแรก
ปี 1992 Gianni Bugno ของทีม Bianchi ก็ได้แชมป์ในรายการ World Championships ได้อีกครั้ง
ปี 1993 นักแข่งเสือภูเขา Dario Acquaroli สามารถกำชัยชนะในทีม Bianchi ด้วยการเป็นแชมป์ในรายการ MTB World Championships ประเภทครอสคันทรีได้เป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน
ปี 1995 Bianchi ได้สร้างมิติใหม่ให้กับนักจักรยานโดยออกรถต้นแบบ City Project สำหรับใช้ในเมืองที่ชื่อว่า Spillo
ปี 1997 Bianchi ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทยักษ์ใหญ่ของยุโรป Cycle Europe A.B. Group ที่มี Mr.Salvatore Grimaldi เป็นเจ้าของ
ต่อมาในปี 1998 อีกครั้งที่โลกจักรยานต้องจารึกไว้เมื่อ Marco Pantani สามารถคว้า 2 แชมป์ได้ในปีเดียวกันทั้งในรายการ Tour de France และ Giro d’Iltalia และนักแข่งอีกคนของทีม Stefano Grazelli คว้าแชมป์ในรายการ Tour of Switzerland และทีมเสือภูเขาของ Bianchi ที่มี Marco Velo ชนะในรายการ Italian Time Trial พร้อม ๆ กับทีมเสือภูเขา Bianchi-Martini สามารคว้าแชมป์ในสนามย่อย ๆ มาได้อีกหลายสนาม
ปี 2000 ปีทองของทีมจักรยานเสือภูเขา Bianchi-Motorex เมื่อ Jose Hermida คว้า 3 แชมป์มครองในปีเดียวกัน ในปีนี้เอง Bianchi ได้มอบหมายให้ Felicia Gimondi อดีตแชมป์โลกจักรยานมาทำทีมแข่งจักรยานเสือภูเขาและเขาได้รับเด็กหนุ่มชาวฝรั่งเศสที่ชื่อ Julien Absalon เข้าร่วมทีมต่อมาในปี 2001 ทีมแข่งจักรยานเสือภูเขาของ Bianchi สามารถคว้าแชมป์ในรายการ European Championships โดย Jose Hermida และ Julien Absalon ได้แชมป์ในรุ่น U23 ของรายการ MTB World Cup และรายการ France Cup
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น