ss

13 มี.ค. 2555

การเดินทางกว่า 30 ปี ของจักรยาน TREK ตอนที่ 2

TREK ได้เริ่มต้นหน้าสู่ความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานระดับโลกในปี 1989 ด้วยการเปิดบริษัทลูกแห่งแรกขึ้นในประเทศอังกฤษและตามด้วยประเทศเยอรมัน ด้วยก้าวกระโดดแต่ละขั้นที่มั่นคงส่งให้ TREK มีบริษัทลูกตั้งอยู่ทั่วโลก 10 แห่ง รวมทั้งที่ประเทศญี่ปุ่น และประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่มีคุณภาพทั่วโลกอีกไม่ต่ำกว่า 70 แห่ง ทำให้ TREK กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายจักรยานที่มีเครือข่ายทั่วโลกมากที่สุด

หลังจากส่ง TREK 2500 สู่ตลาดแล้ว TREK ไม่ได้หยุดการค้นคว้าด้านเทคโนโลยีของการผลิตเฟรมคาร์บอนไฟเบอร์ หลังจากความพยายามหลายครั้งที่จะผลิตเฟรมคาร์บอนไฟเบอร์แบบโมโนค็อก แต่ก็ไม่ผ่านกระบวนการทดสอบตามมาตรฐานที่ตั้งไว้สูงได้ แทนที่ TREK จะท้อถอย กลับยิ่งทุ่มเทให้กับการค้นคว้าอย่างสุดกำลังจนกระทั่งปี 1992 ความมุ่งมั่นก็สำริดผลในที่สุด TREK ได้ส่งจักรยานเสือหมอบรุ่นใหม่ล่าสุด TREK 5200 และ TREK 5500 สู่ตลาด จักรยานทั้งสองรุ่นใช้เทคโนโลยีคาร์บอนที่ทันสมัย OCLV Carbon Technology (Optimum Compaction Low Void) ที่ทำให้น้ำหนักเบา กล่าวกันว่า เทคโนโลยีในการผลิตเฟรมรุ่นใหม่ของ TREK นี้มีมาตรฐานที่สูงกว่ามาตรฐานในการผลิตอากาศยานเสียด้วยซ้ำ จึงเป็นการยกระดับจักรยานที่ออกสายการผลิตของ TREK แท้ ๆ ซึ่งในเวลาอีกไม่กี่ปีต่อมาจักรยานจากสายการผลิตเดียวกันก็ได้รับการพัฒนาเป็นพาหนะให้กับ Lance Armstrong คว้าแชมป์ตูร์ เดอ ฟร็อง ได้เป็นผลสำเร็จ

นับจากปี 1992 ซึ่งเป็นปีแรกที่ TREK ได้นำ OCLV Carbon Technology เข้าสู่ตลาด TREK ก็ไม่ได้รั้งรอที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการผลิตเฟรมของเมาเทนไบค์ โดยนำเข้าสู่สายพานการผลิตในปี 1993 ด้วยความมั่นใจในเทคโนโลยี ซึ่งในสมัยนั้นเฟรมที่มีน้ำหนักเพียง 2.84 ปอนด์ หรือ 1.29 กิโลกรัม (เฟรมขนาด 18 นิ้ว) ถือว่าเป็นเฟรมเมาเทนไบค์ที่เบาที่สุดที่ออกจากสายการผลิตสำหรับขายในตลาดจักรยานทั่วไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง