ss

16 ก.ค. 2557

วิธีการเลือกซื้อจักรยานให้ถูกใจและตรงกับการใช้งาน

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้มีโอกาสดี ก็ขอมาอัพเดทบทความ และข่าวสารในวงการจักรยานบ้านเรา และที่สำคัญผมมีบทความดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกซื้อจักรยานมาฝากทุกท่านกันครับ


จักรยานใช่สักแต่ว่าปั่นๆ ไปก็จบเรื่อง เพราะจักรยานนั้นมีหลายแบบ และคุณลักษณะของจักรยานแต่ละประเภทก็แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกซื้อจักรยาน ควรจะรู้ความต้องการของตนเองก่อนว่า จะซื้อจักรยานมาเพื่ออะไร
       
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักจักรยานแต่ละประเภทก่อน ซื้อเมื่อแบ่งตามลักษณะและการใช้งานแล้ว แบ่งจักรยานออกได้เป็น 5 ประเภทคือ
       
       1. จักรยานทั่วไป หรือจักรยานแม่บ้าน จักรยานจ่ายกับข้าว แล้วแต่จะเรียก จักรยานประเภทนี้ส่วนมากไม่มีเกียร์ แต่ในทางช่างถือว่ามี 2 เกียร์ คือ เฟืองหน้า 1 ชิ้น และเฟืองหลัง 1 ชิ้น แต่มีสปีดเดียว ซึ่งปัจจุบันมีการพัมนาไปมาก จนมี 3-6 เกียร์ จะขายสำเร็จรูปพร้อมอุปกรณ์ประกอบ เช่น บังโคลน ไฟหน้า ขาตั้ง บังโซ่ อานซ้อนท้าย รวมไปถึงตะแกรงหน้า จักรยานแบบนี้มีน้ำหนักค่อนข้างมาก จึงต้องใช้แรงมาก แต่มีข้อดีคือ ราคาถูก ประมาณ 1,500-3,000 บาท และหาซื้อได้ทั่วไป รวมทั้งเมื่อชำรุดก็มีร้านรับซ่อมทั่วไปด้วย
       
       2. จักรยานพับได้ จักรยานแบบนี้แม้จะของที่ผลิตในประเทศ แต่มักนิยมของที่ส่งมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจักรยานมือสองของญี่ปุ่น แต่ที่เป็นของนอกราคาแพงขนาด 3-5 หมื่นบาทต่อคันก็เป็นที่นิยมของคนบางกลุ่ม ล้อมีขนาดตั้งแต่ 16-20 นิ้ว เพราะหากล้อมีขนาดใหญ่มาก เวลาพับแล้วจะไม่กะทัดรัด จึงไม่เป็นที่นิยม

       3. จักรยานออกกำลังกายและท่องเที่ยว จักรยานประเภทนี้คือจักรยานที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรม และให้ถีบเบาแรง โดยมีระบบเกียร์และลดน้ำหนักรถลง ราคาสูงกว่าจักรยานจ่ายกับข้าว แบ่งตามลักษณะเฉพาะ ดังนี้
       
       - จักรยานเสือหมอบ รูปแบบคล้ายจักรยานแข่ง แต่คุณภาพของอุปกรณ์จะด้อยกว่า ขึ้นอยู่กับราคา ใช้เป็นจักรยานออกกำลังกายได้ดี หรือใช้เป็นจักรยานสำหรับขี่ท่องเที่ยวก็ได้ แต่เหมาะสำหรับขี่ทางเรียบเท่านั้น หาซื้อได้ในราคา 3,000-5,000 บาท
       
       - จักรยานท่องเที่ยว จักรยานแบบนี้ออกแบบสำหรับการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ แต่ก็ใช้ขี่ออกกำลังหรือขี่ไปทำงานหรือใช้งานอเนกประสงค์ได้ มักมีตะแกรงท้ายสำหรับวางสัมภาระ ปกติจะมีชุดบังโคลนและขาตั้งติดมากับรถ ระบบเกียร์มีให้เลือกตั้งแต่ 10-27 สปีด
       
       - จักรยานเสือภูเขา เป็นจักรยานที่ออกแบบสำหรับขี่ขึ้นลงเขาโดยเฉพาะ มีโครงสร้างแข็งแรง ยางล้อใหญ่หรืออ้วน ดอกยางใหญ่และหนา ทำให้เกาะพื้นถนนได้ดีเวลาขี่ขึ้นเนินชันๆ ใช้งานได้ในทุกพื้นผิวถนน บางครั้งเรียกจักรยาน ATB (All-Terrain Bike) ระบบเกียร์มีให้เลือกตั้งแต่ 10-27 สปีด จักรยานเสือภูเขานอกจากจะใช้งานขี่สมบุกสมบันแล้ว ยังใช้เป็นจักรยานท่องเที่ยว หรือใช้เป็นจักรยานอเนกประสงค์ได้ จึงเป็นลูกผสมระหว่างจักรยานท่องเที่ยวและจักรยานเสือภูเขาคือ ออกแบบให้ใช้งานสมบุกสมบันได้ แต่เมื่อขี่บนถนนธรรมดาก็สามารถไปได้เร็วด้วย จักรยานลูกผสมจึงมีลักษณะเหมือนเสือภูเขา แต่ยางล้อจะเล็กหรือผอมกว่า ดอกยางไม่ลึก เมื่อขี่ในเมืองจึงเปลืองแรงน้อยกว่า บางครั้งเรียกจักรยานแบบนี้ว่า ซิตี้ไบค์ หรือจักรยานเมือง ราคาตั้งแต่ 4,000-20,000 บาท
       
       4. จักรยานแข่ง คือจักรยานแบบเสือหมอบที่เห็นนักกีฬาฝช้แข่งทั่วไป มีน้ำหนักเบามาก มีเกียร์ตั้งแต่ 1-27 สปีด กรณีมีเกียร์เดียวมักใช้แข่งในลู่หรือเวโลโดรมในระยะทางสั้นๆ ตัวถังเล็ก เพรียวลม ยางรถจะผอมและทนแรงดันได้สูง คือสูบยางได้แข็งมาก และเพื่อให้มีน้ำหนักเบา จึงตัดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น เช่น ขาตั้ง บังโคลน ออกทั้งหมด จักรยานชนิดนี้มีราคาแพงมาก ถึงระดับหลายแสนบาท ถ้าระดับแข่งขันภายในประเทศส่วนใหญ่ราคาคันละประมาณ 30,000-50,000 บาท
       
       5. จักรยานฟิกซ์เกียร์ จักรยานประเภทนี้มีสปีดเดียว และเฟืองหลังเป็นแบบตายหรือฟิกซ์ คือปล่อยฟรี หรือปั่นขาทวนกลับไม่ได้ การขี่จึงต้องหมุนขาไปตลอดเวลา เพราะหากไม่หมุนขาเฟืองก็จะไม่หมุน ซึ่งก็คือการเบรกนั่นเอง และถ้าต้องเบรกเร็วๆ แรงๆ ก็กระทืบขาย้อนกลับหลัง เฟืองก็จะหยุดหมุนทันทีและรถก็จะหยุดทันทีเช่นกัน
       

ส่วนการเลือกซื้อจักรยานนั้นจะเน้นประเภทออกกำลังกายและท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจักรยานที่คนกลุ่มใหญ่เลือกใช้ ซึ่งจำเป็นต้องมีเทคนิคในการเลือกซื้อมากกว่าจักรยานทั่วไป โดยมีข้อพิจารณาเบื้องต้นง่ายๆ ดังนี้
       
       1. ขนาด ต้องเลือกให้ขนาดจักรยานเหมาะสมกับขนาดตัวผู้ขี่ จักรยานมีขนาดตั้งแต่ 16-25 นิ้ว เบอร์นี้บอกความยาวของท่อนั่ง (ท่อที่ต่อจากหลังอานลงไปถึงหัวกะโหลก) วิธีเลือกขนาดอย่างง่ายคือให้วัดความสูงเป็นนิ้ว จากพื้นถึงปุ่มสะโพกผู้ขี่ เอาค่าที่ได้ลบออกด้วย 9 จะเป็นขนาดตัวถังจักรยานท่องเที่ยวหรือเสือหมอบ แต่ถ้าจะเลือกซื้อเสือภูเขาให้ลบด้วย 11
       
       2. ตัวถัง (โครง) ให้ดูที่น้ำหนัก ยิ่งเบายิ่งดี (แต่มักราคาแพง)
       
       3. เบรก มีอยู่ 5 แบบ คือแบบดึงข้าง ดึงกลาง แบบคานกระดก แบบวีเบรก และแบบเบรกจาน แบบหลังจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า จกรยานท่องเที่ยวหรือเสือภูเขาควรใช้เบรกแบบนี้
       
       4. เกียร์ ชุดเกียร์ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกใช้ชุดเกียร์ยี่ห้อที่เชื่อถือได้ (สอบถามจากผู้รู้) ถ้างบประมาณน้อย ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่เชื่อถือได้แต่เป็นรุ่นเก่า ดีกว่ารุ่นใหม่ล่าสุดแต่ยี่ห้อไม่น่าเชื่อถือ
       
      5. อาน อานแบบเรียวเหมาะสำหรับเสือหมอบ เสือภูเขา และจักรยานท่องเที่ยว ส่วนจักรยานทั่วไปควรเป็นแบบอานป้าน

ไปหน้าแรก  การปั่นจักรยาน

       
 ขอบคุณข้อมูลจากชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพประเทศไทย

1 ความคิดเห็น:

  • pg slot says:
    27/10/66 01:31

    slotworld โลกของเกมสร้างรายได้ เว็บไซต์ออนไลน์ รวมเกมสล็อตออนไลน์ จากค่ายดัง ทั้งยัง JOKER , PG , MQ , CQ9 อื่นๆอีกมากมาย pg slot เว็บไซต์ที่เข้าเล่นกล้วยๆจ่ายเร็ว

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง