ss

22 ส.ค. 2554

ระบบเกียร์ของรถจักรยาน ตอนที่ 1 “Shifter”

เรามาทำความรู้จักกับระบบเกียร์ของจักรยานกันดีกว่าครับ

ระบบเกียร์เป็นสิ่งพื้นฐานที่เราควรจะดูแลเองได้บ้าง ระบบเกียร์นั้นจะเริ่มต้นกันตั้งแต่ Shifter สายเกียร์ (Shift cable) ตัวสับจานหน้า (Front derailleur) หรือตีนผี (Rear derilleur) และชุดใบจาน (Chain rings) หรือเฟืองหลัง (Cog set) รวมไปถึงโซ่ (Chain) ที่รับส่งกำลังให้ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เราควรจะต้องมี คือจะต้องมีความรู้จักมักคุ้นกับสิ่งที่เราจะลงมือเสมอ

1.  Shifter  ทำหน้าที่ในการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ จะประกอบด้วยตัวเปลี่ยนตำแหน่งจานหน้าซึ่งจะอยู่ด้านซ้ายมือ และตัวเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังจะอยู่ด้านขาวมือของแฮนด์เสมอ Shifter แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะรูปร่าง ได้แก่

Thumb Shift – ยี่ห้อที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ Shimano ซึ่งได้ทำการพัฒนา ปรับปรุงให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและแม่นยำภายใต้ชื่อทางการค้าว่า Rapidfire
Rotary Shift – หรือที่เราชอบเรียกติดปากตามยี่ห้อว่า Grip shift ซึ่งปัจจุบันยี่ห้อที่เป็นที่นิยมกันคือ SRAM หรือ SACH ในอดีตนั่นเอง


Shifter จะทำการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์โดยอาศัยการส่งแรงดึงผ่านสายเกียร์ โดยสอดอยู่ภายในปลอกสายเกียร์ สายเกียร์จะไปดึงสับจานหรือตีนผี ให้ไปดันโซ่ให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งจานหน้าหรือเฟืองหลัง ตัว Shifter จะต้องทำมาให้เข้ากันกับตัวสับจานหรือตีนผีที่ใช้ เช่น ตีนผีสำหรับ 9 สปีด ก็ต้องใช้กับ Shifter สำหรับ 9 สปีดด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปแล้ว SRAM กับ Shimano จะสามารถใช้แทนกันได้ ยกเว้นเฉพาะ SRAM รุ่น ESP ที่ต้องใช้กับตีนผี SRAM รุ่น ESP ด้วยกัน เพราะว่ามีระยะดึงมากกว่าตัวอื่น ๆ ถึง 2 เท่า

บริเวณที่สายเกียร์ออกจาก Shifter นั้น จะมีตัวปรับความตึงของสายเกียร์ (ยกเว้น Rapid fire ที่ใช้เปลี่ยนเกียร์หลังของ Shimano รุ่นล่าง ๆ จะไม่มีตัวเร่งสายเกียร์ที่ Shifter  แต่ให้ไปปรับที่ตีนผีแทน) ถ้าหมุนเข้าในหรือที่ฝรั่งเรียกว่าหมุนวนขวาหรือหมุนตามเข็มนาฬิกา (ในกรณีที่ดูจากด้านนอกเข้าไป) จะทำให้สายเกียร์หย่อนลง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหมุนออกหรือที่เรียกว่า หมุนวนซ้ายหรือหมุนทวนเข็มนาฬิกา จะทำให้สายเกียร์ตึงขึ้น ซึ่งอันนี้ขอให้เข้าใจให้ตรงกันเสียก่อนไม่เช่นนั้นเวลาเจอคำว่าหมุนเข้า หรือหมุนออกจะได้ไม่สับสน อาจจะมีหลายคนถามว่า Rapidfire vs Grip Shift อะไรดีกว่ากัน ถามง่ายแต่ตอบยาก เพราะความจริงแล้วไม่มีอะไรที่ดีไปกว่ากัน แล้วแต่คนชอบแล้วแต่คนใช้

- RapidFire ให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่า ให้ความรู้สึกแม่นยำกว่า
- Grip Shift ให้ความรู้สึกหนักแน่นกว่า แต่เนื่องจากใช้ข้อมือบิดซึ่งมีกล้ามเนื้อมัดใหญ่และหยาบกว่ากล้ามเนื้อที่คุมนิ้วมือ จึงมีโอกาสที่จะบิดเกินหรือบิดขาดโดยเฉพาะด้านเกียร์หลัง ทำให้บางคนเข้าใจว่าไม่แม่นยำเท่ากับ RapidFire แต่ถ้าหากเรียนรู้วิธีการใช้งานจนชำนาญแล้ว จะพบว่ามีความแม่นยำไม่แตกต่างจาก RapidFire นอกจากนี้ Stroke ในด้านการเปลี่ยนตำแหน่งสับจานหน้าจะทำได้กว้างกว่า RapidFire เนื่องจากสามารถบิดต่อเนื่องกันได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้ร่วมกับใบจานหน้าแบบเก่าที่ไม่มีหมุดช่วยวิดโซ่


บทความที่เกี่ยวข้อง:

>> ระบบเกียร์ของรถจักรยาน ตอนที่ 3 “Front Deraillure”


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง