ไม่ว่าคุณจะชอบหรือเกลียดมันก็ตาม โค้งหักศอกแบบยูเทิร์นในซิงเกิลแทรค คือสิ่งที่ต้องเจอในทุกที่ที่เข้าไปขี่เมาเท่นไบค์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงลงหรือขึ้นเขา จะต้องมีทางโค้งแบบนี้ให้เห็นและวัดใจกันทุกครั้ง ถ้าโชคดีคุณอาจจะเจอโค้งที่ทำไว้ให้พอดีกับฐานล้อ 43 นิ้วของเมาเท่นไบค์ แต่ในสภาพที่เป็นจริงคือคุณอาจจะเจอโค้งที่หักได้แหลมกว่านั้นอยู่บ่อย ๆ และมีหลายครั้งที่พื้นทางลดหลั่นเป็นชั้น ๆ จนพวกเราหลายคนอดจะตั้งข้อสังเกตไว้ไม่ได้ว่าน่าจะทำไว้เพื่อให้ชีวิตในซิงเกิลแทรคของเรามันอยากขึ้นอย่างตั้งใจหรือเปล่า ซึ่งนับส่าตลก เพราซิงเกิลแทรคที่พวกเราใช้สนุกกับเมาเท่าไบค์อยู่นี้ตามปกติเป็นทางเดินในป่า ทำไว้ให้เกิดเท้าเท่านั้นโดยส่วนใหญ่ไม่คิดเลยว่าจะมีเมาเท่นไบค์มาขอเส้นทางร่วม จริง ๆแล้วคือพวกทางโค้งหักยูเทิร์นหรือที่เรียกว่าโค้งทบหรือ switchback เหมือนมีดพับนั้นถ้าจะให้ผ่านไปแบบง่ายที่สุดก็คือต้องลงจากจักรยานมาจูง
แต่ไหน ๆ เมื่อเราจะขี่เมาเท่นไบค์กันแล้วจะให้ลงมาเข็นจักรยานมันก็ไม่ใช่ที่ เจ้าทางสวิทช์แบ็คนี่เลยกลายเป็นปัญหาให้แก้ เหมือนกับปัญหาที่นักเมาเท่นไบค์ต้องคอยแก้ไปเรื่อย ๆ ตลอดเส้นทาง เพราะการแก้ปัญหาระหว่างเส้นทางซิงเกิลแทรคนี้คือความสนุกสนานในการขี่เมาเท่นไบค์ เราจึงมาขี่กันเพื่อจะได้ใช้ทักษะและปัญญากันให้เต็มที่ ก่อนจะมีบำเหน็จคือความเร็วและสนุก แต่การจะเข้าและออกจากโค้งชนิดนี้ต้องมีวิธีซึ่งคุณเองก็สามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ถ้าเข้าซิงเกิลแทรคบ่อย ๆ แต่ถ้าไม่ค่อยได้เข้าหรือยังใหม่อยู่เราขอแนะนำเรื่องราวต่อไปนี้เพื่อให้คุณสนุกกับสวิทช์แบ็คได้ง่ายขึ้น เริ่มที่ช่วงลงเขาหรือดาวน์ฮิลล์กันก่อน
วิธีเข้าโค้งสวิทช์แบ็คช่วงลงเขา
เมื่อพูดถึงโค้งสวิทช์แบ็คนั้นมีอยู่สามวิธีที่จะเอาตัวรอดได้คือ เริ่มด้วยการล็อคล้อหลังหยุดตายตอนที่กำลังเข้าโค้งขาลงนั้น พอล้อตายแล้วไถลก็หักล้อหน้าเลี้ยวรถจะไถลท้ายปัดหันหน้าเข้าโค้งช่วงออก พอตัวรถหันตรงดีแล้วจึงปล่อยเบรคแล้วออกแรงปั่นเข้าเส้นทางข้างต่อไป ถ้านึกภาพตามทันที่เราเล่าแล้วคุณจะพบว่ามันเป็นวิธีที่เท่และเทพมาก แต่ลองไปทำดูในโค้งดินร่วน ๆ มีแต่กรวดหลวม ๆ เถอะแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง รับรองได้ว่าแหกโค้ง ล้มลูกเดียว
วิธีที่สองเพื่อเอาตัวรอดจากโค้งสวิทช์แบ็คได้ คือ ต้องใช้ทักษะกันสุด ๆ คุณอาจจะต้องทรงตัวให้ดีมาก ๆ และต้องประสาทแข็งสุด ๆ คือ จะเริ่มด้วยการหักเลี้ยวแต่พอประมาณช่วงกลางโค้ง ตามด้วยการเกร็งตัวและข้อแขน แล้วบีบเบรคหน้าเพื่อให้ล้อจิกก่อนจะยกท้ายขึ้นเพื่อให้เหลือล้อหน้าเพียงล้อเดียวที่เกาะพื้น ใช้ล้อหน้าเป็นจุดหมุนแล้วยกล้อหลังให้ท้ายหมุนไปตรงทางออกโค้ง ปล่อยน้ำหนักลงให้ล้อทั้งคู่เกาะพื้นแล้วจึงปั่นเข้าทางต่อไป ใครที่อ่านตั้งแต่ย่อหน้าแรกคงเข้าใจล่ะว่านี่มันบีเอ็มเอ็กซ์ชัด ๆ นั่นหมายความว่าคุณต้องขี่เมาเท่นไบค์แล้ว หัดยกล้อหลังจนเชี่ยวชาญแล้วเท่านั้นถึงจะสนุกกับการ ยกหาง แล้วเลี้ยวแบบนี้ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นเซียนบีเอ็มเอ็กซ์มาก่อนถึงจะทำท่าแบบนี้ได้ เพราะบีเอ็มเอ็กซ์กับเรื่อยกล้อทั้งหลายนั่นคุ้นเคยกันดี
วิธีที่สามนี้ถือว่าเป็นภัยต่อสุขภาพน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสองวีแรกที่ท้ายปัดและยกล้อหลัง ในเมื่อสวิทช์แบ็คส่วนใหญ่นั้นถ้าคุณจะเอาตัวรอดให้ได้โดยไม่เจ็บตัว สามารถขี่ผ่านมันไปได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ลวดลายอะไรมาก กุญแจสำคัญคือต้องใช้เบรกหน้าและหลังให้เป็นแต่ข้อสำคัญคือต้องให้ล้อหมุนเสมอ การล็อคล้อตายไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องเพราะเมื่อใดที่ล้อตายคุณจะบังคับทิศทางไม่ได้ โดยเฉพาะถ้ามันเป็นล้อหน้า
วิธีการคือเริ่มด้วยการบีบเบรกแรงพอประมาณเมื่อรู้ตัวว่าจะเข้าโค้งขาลง หักแฮนด์เข้าโค้งขณะความเร็วลดลงและเมื่อล้อหน้ามาถึงจุดกึ่งกลางโค้งก็ปล่อยเบรกออกแรงปั่นออกจากโค้ง ไม่ต้องไปสนใจล้อหลังเพราะมันจะหาทางลงของมันเอง ข้อสำคัญคือคุณต้องบังคับล้อหน้าให้ได้แนวอยู่เสมอแล้วทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยดีเอง ด้วยวิธีนี้ความเร็วของจักรยานจะลดลงได้ก่อนเข้าโค้งจนถึงระดับที่ปลอดภัย ต้องระวังให้มากหากทางตรงกลางโค้งนั้นเป็นหน้าผาที่คุณอาจตกลงไปเจ็บตัวหรือถึงกับตายได้ถ้าไม่มีราวกั้น
กลเม็ดอย่างหนึ่งของการเข้าโค้งช่วงลงเขาคือต้องพยายามลดความสูงของจุดศูนย์ถ่วงให้มากที่สุด ถ้าไม่มั่นใจก็ควรจดปรับลดอานลงได้เลยตั้งแต่อยู่บนยอดเขาไม่ต้องรอให้มาเห็นโค้งก่อนแล้วค่อยปรับ จะเสียทั้งเวลาและหมดความตื่นเต้น
อ่านต่อ >> เทคนิคการเข้าโค้งหักศอก ตอนที่ 2
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น