ss

9 ส.ค. 2553

คุณ..กับการแข่งจักรยานครั้งแรก

คุณ...กับการแข่งจักรยานครั้งแรก


ในวงการจักรยานไม่ว่าจะเป็นประเภทใด มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ใช้เวลาปั่นจักรยานเกือบทั้งชีวิต โดยไม่คิดถึงเรื่องการแข่งขัน ไม่ว่าเขาจะใช้จักรยานดีแค่ไหนก็ตาม แต่จุดมุ่งหมายสูงสุดของพวกเขาคือการปั่นเอามันอย่างเดียวหรือใช้พาหนะชนิดนี้เป็นแค่เครื่องเผาผลาญแคลอรี่ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความสุขอยู่กับการปั่นจักรยานเพื่อความเพลิดเพลิน นั่นก็เป็นความพอใจของคุณ แต่เมื่อใดที่คุณอยากแข่งเป็นครั้งแรก ปัญหาก็คือคุณจะกลัวนั่นกลัวนี่มากมายไปหมด กลัวจักรยานจะสู้เพื่อน ๆ ไม่ได้ หรือกลัวตัวเองจะรั้งท้ายที่โหล่จนเป็นที่เสียหน้ายับเยิน และกลัวอะไรอีหลายอย่าง แต่จะรู้หรือไม่ล่ะว่าความกลัวนั้นมีสาเหตุมาจากการไม่ได้เตรียมตัว หรือไม่ก็เตรียมตัวได้ไม่ถูกต้อง

เราจึงมักกลเม็ดเด็ดพรายมาให้คุณพิจารณา เพื่อจะได้ใช้เป็นแนวทางสำหรับการเตรียมตัวแข่งขันเป็นครั้งแรก ลองทำตามดู ดัดแปลงวิธีการให้เหมาะสมกับตัวเอง คุณอาจจะเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งในสิบหรือไม่นั้นเราไม่ทราบ คุณเองก็ไม่มีทางทราบเช่นกัน แต่สิ่งที่จะประจักษ์แก่ใจแน่ ๆ หลังจากอ่านบทความต่อไปนี้ ก็คือคุณต้องขี่จักรยานได้ดีขึ้นแน่ ๆ ถึงไม่ชนะใครก็น่าจะดูดีกว่าเดิม

วิธีการเตรียมตัวที่ดีที่สุด

การฟิตซ้อมด้วยตัวเอง ถามไถ่วิธีการกับเพื่อนฝูงเพื่อให้ได้วิธีการสร้างความฟิตให้ตัวเองนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ ดีเสียด้วย แต่มันคงดีได้แค่การขี่คนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อใดที่คุณคิดจะลงแข่งขัน เมื่อนั้นก็ต้องเรียนรู้จากคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่นการเกาะกลุ่ม เทคนิคการแย่งชิงตำแหน่งที่ดีที่สุดในกลุ่ม เทคนิคการหมกเพื่อออมแรงไว้ใช้ตอนปลายทาง

วิธีเสริมสร้างความมั่นใจในเทคนิคต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ ที่ง่ายที่สุดคือการปั่นกับกลุ่ม จะได้ผลมากสำหรับผู้นิยมเล่นเสือหมอบ เมื่อคิดได้ก็จงพยายามเข้าไปพูดคุยหาข่างคราวในร้านจักรยานใกล้บ้าน เพื่อจะทราบถึงกลุ่มที่รวมตัวกันขี่จักรยานทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อพบนักปั่นที่ชอบไปนั่งคุยกับเจ้าของร้านหรือช่างเทคนิค ได้รู้จักกับพวก “ขาแรง” ทั้งหลายและไปร่วมปั่นกับบุคคลเหล่านี้ในวันหยุดสุดสัปดาห์

ทำได้เช่นนี้แล้วคุณจะเข้าใจถึงความสนุกกับการขี่แบบเปโลต็อง ไปกันเป็นฝูง ได้เรียนรู้เทคนิคการบังลม การจัดรูปขบวน การสับเปลี่ยนตำแหน่งผลัดกันขึ้นมาทำหน้าที่เป็นหัวลากให้เพื่อที่สำคัญคือได้วัดฝีเท้ากับเพื่อน เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนเก่ง ๆ รับรองได้เลยว่าคนคอเดียวกันย่อมไม่มีการปิดบังเทคนิคเคล็ดลับต่าง ๆ อยู่แล้ว และคนพวกนี้แหละที่จะทำให้คุณเก่งขึ้น พร้อมมากขึ้นและมั่นใจกว่าเดิมสำหรับการแข่งขันครั้งแรก

รู้จักเลือกสรรการแข่งขัน

การเลือกรายการแข่งขันเป็นสิ่งสำคัญ ในฐานะมือใหม่ที่ต้องการความมั่นใจมากกว่าสิ่งอื่น คุณต้องเลือกรายการแข่งขันที่เหมาะสมกับตัวเองและไปด้วยกันได้กับเวลาที่มีอยู่ รายการเล็ก ๆ ระยะทางไม่ต้องมากสำหรับเสือหมอบ หรือรายการที่ลู่แข่งขันไม่ลำบากหฤโหดมากนัก สำหรับเสือภูเขา ข้อดีของรายการเล็กๆ นั้นไม่เพียงแต่ค่าสมัครแข่งขันจะย่อมเยากว่ารายการใหญ่ ๆ แต่คุณจะได้แข่งกับคนจำนวนน้อยกว่าด้วย ในเมื่อการแข่งขันแรก ๆ คือการเรียนรู้ ตรงนี้แหละที่จะช่วยให้เรียนรู้อะไรได้มาก เทคนิคต่าง ๆ จะถูกนำมาใช้กับนักปั่นแปลกหน้าที่คุณไม่รู้ทาง ช่วยได้มากสำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อนจะเข้าสู่การแข่งขันรายการใหญ่ ต่อไปเมื่อฝีมือแก่กล้ายิ่งขึ้นดูลาดเลาเสียก่อน

ในสนามแข่งขันทุกสนาม เมื่อประกาศแข่งแล้วมักจะไม่หวงห้ามหากนักจักรยานจะไปซ้อมกันก่อน เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงควรไปยังจุดลงทะเบียนเสียแต่เนิ่น ๆ วิธีการซ้อในสนามจริงนั้นใช้ได้ผลมาตลอด นับแต่มีการแข่งจักรยานมา แลนซ์ อาร์มสตรอง เป็นแชมป์ได้หลายสมัยเพราะสำรวจเส้นทางก่อน โรแลนด์ กรีน หรือแอนดี การ์เซีย ก็ลงซ้อมก่อนในซิงเกิลแทรคของเมาเท่นไบค์เพื่อให้เกิดความคุ้นเคย

เวลาก่อนการแข่งขันยิ่งนาน คุณก็ยิ่งมีเวลาซักซ้อมเพื่อให้เคยชิน เพื่ออ่านไลน์ออกได้มาก ได้เรียนรู้อะไร ๆ อีกหลายอย่าง เช่นการหาที่พักราคาถูกใกล้สนามแข่ง สถานที่ท่องเที่ยวหากเมื่อแข่งเสร็จแล้วยังไม่อยากกลับบ้าน เส้นทางเข้าสู่สนามแข่ง จิปาถะ การทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้เกิดความมั่นใจ ยังช่วยให้ไม่ต้องทำเรื่องเปิ่น ๆ ขายหน้าตัวเองด้วย

ต้องมั่นใจว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มที่เหมาะสม

นักแข่งจักรยานที่เพิ่งออกโรงครั้งแรกจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มมือใหม่ หรือในระดับสากลจะเรียกว่า นักจักรยานในเคตอกอรี่ 5 สำหรับเสือหมอบ สำหรับเสือภูเขาจะเรียกว่า บีกินเนอร์ หรือ “มือใหม่” ในเมื่อคุณมือใหม่กับการแข่งขันจริงก็จงอย่าได้เอียงอาย ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ความเพียรพยายามเท่านั้นที่จะสร้างฝีมือได้ วันนี้อาจจะเป็นมือใหม่ แต่ถ้าพากเพียรขยันซ้อม คุณก็จะก้าวหน้าได้เร็วกว่าที่คิด

วันแข่ง มีเวลาเตรียมตัวมาก ความมั่นใจมากตาม

วิธีเตรียมตัวที่ดีที่สุด คือการจดรายการสิ่งของเอาไว้ทุกอย่างในกระดาษแผ่นเดียว (หรือน้อยแผ่นที่สุด) ตรวจสอบรายการเหล่านั้นด้วยการใช้ปากกาติ๊กในคืนวันก่อนแข่ง ยัดของลงกระเป๋าให้เรียบร้อย ถอดล้อเอาไปเตรียมไว้ข้างรถยนต์

เมื่อวันแข่งจงไปถึงสนามก่อนเริ่มแข่งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ลงทะเบียนแล้วกลับมาเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะเดินชมนกชมไม้ เมื่อลงทะเบียนแล้วสิ่งที่จะได้มาก็คือหมายเลขประจำตัวนักแข่ง ถามเจ้าหน้าที่ให้แน่ใจว่าจะเอาเบอร์พวกนี้ติดไว้ตรงไหน แล้วเอาแผ่นป้ายเบอร์นั้นมาติดกับจักรยานด้วยเข็มขัดรัดสายไฟ จัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้เรียบร้อย สวมใส่ชุดแข่ง ปรับแต่ให้กระชับโดยเฉพาะตรงเป้ากางเกงซึ่งจะก่อเกิดความทรมานได้มากในระยะไกล หรือเมื่อขี่นาน ตรวจสอบความดันลมในยางให้เหมาะสมตามที่ระบุไว้ตรงแก้มยาง

หากมีเวลาพอควรจะขี่วอร์มเสียก่อนประมาณไม่เกิน 20 นาที เมื่อซ้อมได้ห้านาทีควรจะปั่นให้แรงเหมือนการแข่งให้สุดแรง (ลองนึกภาพของนักปั่นในตูร์ฯ ที่เหงื่อหยดอยู่บนเทรนเนอร์ก่อนการแข่งขันจริงจะเริ่มขึ้น นั้นแหละคือการวอร์ม อัพ) เติมน้ำให้เต็มขวด ปัสสาวะอีกครั้งแล้วจึงพาตัวเองกับจักรยานไปยังเส้นสตาร์ท กะเวลาให้ได้สิบหรือสิบห้านาทีก่อนการแข่งขันจะเริ่ม

แข่งจนจบให้สวย

ให้ฟังคำแนะนำให้ละเอียดตรงเส้นสตาร์ท จงตั้งใจฟัง หากคุณมีข้อข้องใจจงถาม ให้พยายามวางตัวเองอยู่ตรงกลางกลุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกี่ยวกันล้ม หรือถูกบังโดยคนปั่นช้าเมื่อเข้าโค้งแรก ตามปกติการปล่อยตัวเป็นกลุ่มพร้อม ๆ กันมักจะเกิดความยุ่งเหยิงและอุบัติเหตุได้ง่ายมาก นักแข่งมักจะใช้ความเร็วสูงตอนออกตัวโดยไม่จำเป็น แต่หลังจากพ้นเส้นสตาร์ทไปสักพักทุกสิ่งจะเริ่มเข้ารูปเข้ารอย คุณต้องพยายามรักษาเนื้อรักษาตัวอยู่บนอานให้ได้ วางมือไว้สบาย ๆ บนแฮนด์ ไม่ต้องเกร็งหัวไหล่ จิบน้ำบ่อย ๆ เมื่อกระหาย อย่างไปอดเพราะร่างกายแย่แน่ถ้าคุณขาดน้ำ ประคองตัวไปเรื่อย ๆ มีโอกาสก็แซงบ้างแต่พองาม แต่จงซึมซับเอาความรู้สึกและเทคนิคในการแข่งขันครั้งแรกให้มาก ๆ เพื่อให้เป็นบทเรียนสำหรับการแข่งต่อไป ในเมื่อคุณไม่ได้แข่งจักรยานเพียงครั้งเดียวทั้งชีวิต

ตรวจสอบความเรียบร้อยหลังแข่งเสร็จ

หลังแข่งจบแล้ว จงพักผ่อนสักครู่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคว้าอาหารว่างมากิน ไม่ว่ามันจะเป็นโปรตีนบาร์สำหรับกินหลังแข่งหรืออะไรก็ตาม เสร็จแล้วอย่าเพิ่มนอนเราอยากให้คุณเดินกลับไปยังเส้นชัยเสียก่อน เพื่อดูคนอื่น ๆที่จะมาเข้าเส้นชัยทีหลังคุณ ให้ดูว่าเขาทำตัวอย่างไร เขาสปรินต์แบบไหน แล้วลองนึกภาพของตัวเองว่าจะทำอย่างเดียวกันหรือไม่ในการแข่งครั้งต่อไป

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง