ss

27 มี.ค. 2555

Disc Brake เสือหมอบนวัตกรรมใหม่เพื่อการควบคุม

Disc Brake เสือหมอบ นวัตกรรมใหม่เพื่อการควบคุมที่ดีกว่า

ดิสก์เบรกจักรยานเสือหมอบ
นับจากการคิดค้นจักรยานคันแรกขึ้นในโลก มันได้ถูกพัฒนามาอย่างยาวนานนับเป็นร้อยปี และจะยังมีพัฒนาการต่อไปไม่หยุดยั้ง เมื่อเทคโนโลยีเจริญขึ้นการผลิตจักรยานก็ยิ่งซับซ้อนยิ่งขึ้น ใช้วัสดุแปลก ๆมาสร้างเฟรมและอุปกรณ์ประกอบกันมากขึ้น สิ่งทื่อว่าเป็นนวัตกรรมขั้นพลิกผันของเทคโนโลยีเบรกก็คือ ดิสค์เบรกของจักรยานถนนหรือเสือหมอบ มีผู้คิดค้นเบรกรูปแบบนี้ใช้กับเมาเท่นไบค์มานานแล้วแต่ยังไม่มีใครจริงจังกับการนำมันมาติดตั้งกับจักรยานถนน ด้วยสาเหตุสำคัญคือเรื่องน้ำหนัก แต่เมื่อกระบวนการผลิตเจริญขึ้นถึงขนาดลดน้ำหนักได้ในขณะที่ความแข็งแกร่งยังคงเดิม ปัญหาก็คือใครจะเป็นเจ้าแรกที่ผลิตดิสด์เบรคสำหรับเสือหมอบออกจำหน่ายเป็นเจ้าแรก ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้บริโภคจะรับได้หรือไม่กับสิ่งแปลกใหม่ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงจากของที่ใช้กันมานานหลายสิบปี ในขณะที่เราคุ้ยเคยกับดิสค์เบรกติดเมาเท่นไบค์ เบรกจับขอบแบบก้ามปูเดิม ๆ ของเสือหมอบ ก็น่าจะได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นเช่นกัน คำตอบจึงอยู่ที่ดิสค์เบรกที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อการควบคุมที่ดีกว่าและการขี่จักรยานที่ปลอดภัยกว่า

นักจักรยานจำนวนมากคิดว่าเหตุผลหลัก ๆ ที่ต้องเปลี่ยนมาเป็นดิสค์เบรกคือต้องการอำนาจหยุดยั้งที่ชะงัดกว่า ในขณะที่ไฮดรอลิค ดิสค์เบรกใช้กับเสือหมอบนั้นต้องมีพลังการกดมากกว่าเบรกก้ามธรรมดา ผลประโยชน์ที่ดีกว่านั้นคือนักจักรยานสามารถควบคุมอำนาจการหยุดยั้งได้ดีกว่า ตามปกติแล้วตัววงล้อเองต้องรับหลายหน้าที่ ไม่เพียงใช้ผิวหน้าของมันเพื่อเบรกเท่านั้น แต่ยังต้อยึดเหนี่ยวขอบยางและช่วยรับน้ำหนักของนักจักรยานด้วย และในฐานะที่เป็นวัตถุทรงกลมที่หมุนตลอดเวลาจึงต้องเบา การจะทำให้ได้เช่นนั้นผู้ผลิตวงล้อจึงใช้วัสดุที่แข็งแรงและเบาแต่กลับไม่ได้ประสิทธิภาพการเบรคที่ดีที่สุด

ดิสก์เบรกจักรยานเสือหมอบ
ในทางกลับกันตัวจานโรเตอร์ที่เล็ก ถึงจะผลิตจากวัสดุที่หนัก (ส่วนใหญ่ผลิตจากสแตนเลสสตีล) ก็ยังเบา น้ำหนักโดยประมาณของโรเตอร์เส้นผ่าศูนย์กลาง 160 มม. คือวงละ 115 กรัม ในขณะที่วงล้ออลูมินั่มมาตรฐานหน้าตัดเหลี่ยมจะหนัก 440 กรัม ความสามารถที่เพิ่มขึ้นในการควบคุมเป็นผลมาจากพลังอำนาจในการบีบ ตัวโรเตอร์ที่เล็กกว่าวงล้อจะต้องใช้พลังมากกว่าเพื่อบีบให้มันหยุดหมุน แต่เพราะมันต้องถูกบีบหนักหน่วงกว่านี้เองที่เราสามารถควบคุได้ดีกว่า ตัวอย่างคือผ้าเบรกของดิสค์เบรกต้องกดหน้าโรเตอร์ด้วยแรงหนักถึง 1,000 ปอนด์ ก่อนจะหยุดในขณะที่เบรกก้ามธรรมดาใช้แรงกดแค่ 200 ปอนด์เท่านั้น ความต่างกันถึง 800 นี่เองที่ช่วยให้เราควบคุมแรงบีบหยุดได้ละเอียดกว่า อันหมายความว่าเมื่อกดมือเบรกแล้วคุณสามารถประมาณแรงกดเพื่อหยุดได้ในช่วงที่กว้างกว่าเมื่อเทียบกับเบรคก้ามธรรมดา

จากการควบคุมพลังงานก็มาถึงความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อใช้ดิสค์เบรก เบรกก้ามปูในจักรยานเสือหมอบทั่วไปมักจะอ่อนตัวและติดตั้งกับเฟรมด้วยน็อตเพียงตัวเดียว หน้าที่ของมันคือกดแถบยางให้แนบสนิทกับขอบล้อที่ทำไว้รองรับแล้ว แต่กับดิสค์เบรคแล้วคนละเรื่องเพราะเมื่อคุณกดมือเบรคมันจะส่งแรงดันไปกดผ้าเบรคติดก้ามให้หนีบโรเตอร์ที่เส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า ด้วยระยะที่แทบจะสัมผัสกันระหว่างผ้าเบรกและดิสค์ ความรู้สึกที่จะเกิดขึ้นก็คือหนึบ นักจักรยานที่ทดลองเปลี่ยนจากเบรคก้ามมาใช้ดิสค์เบรคจะรู้สึกได้ในช่วงแรก ๆ ว่ามันหนึบ แต่เมื่อปรับตัวและปรับแรงบีบของตัวเองได้แล้วก็จะเข้าใจได้ดีถึงอำนาจในการควบคุมพลังงานที่มีมากขึ้น

นอกจากจะควบคุมได้ดีกว่าแล้ว ความดีอีกประการหนึ่งของดิสค์เบรกในจักรยานเสือหมอบก็คือมันปลอดภัยกว่าโดยเฉพาะเมื่อเทรนด์วงล้อคาร์บอนกำลังมาแรง หลังจากสเตจ 10 ที่ล้มกันกราวรูดในตูร์ เดอ ฟร็องซ์ปีที่แล้ว โยฮัน บรูเนล ผู้จัดกาทีมที่ครองชัยชนะมากที่สุดในรายการนี้ได้พูดชัด ๆ เอาไว้ว่า “ผมคิดว่ามันถึงเวลาต้องเริ่มคิดถึงอุปกรณ์ใหม่ ๆ แล้วนะ ถ้าดูที่ตัวจักรยานก็จะพบว่ามันยิ่งเบาขึ้นเรื่อย ๆ แล้วทำไมไม่คิดถึงดิสค์เบรกบ้างล่ะ เบรกแบบนี้หนักกว่าก็จริงแต่ผมคิดว่ามันใช้ได้นะมันเบรกได้ดีกว่าเห็น ๆ”

ดิสก์เบรกจักรยานเสือหมอบ
วงล้อคาร์บอนไฟเบอร์ที่เบาและลู่ลมนั้นล่อใจ แต่การเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้นของวัสดุที่เบาและแกร่งชนิดนี้ก็ทำให้ได้เห็นข้อด้อยของเบรกธรรมดามากขึ้นด้วย ใช้วงล้อคาร์บอนไฟเบอร์แล้วจะใช้ยางเบรกธรรมดาก็ไม่ได้ มันไม่จับขอบทั้งยังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเบรกบ่อย ๆ ผลที่สุดคือประสิทธิภาพของการเบรกลดลง ซึ่งทางออกของบริษัทผู้ผลิตเบรกก้ามก็คือต้องใช้วัสดุชนิดพิเศษเพื่อทำแผ่นเบรกให้ใช้กับล้อคาร์บอนได้โดยเฉพาะ แต่ก็อีกนั่นแหละ มันทำงานได้ดีเฉพาะในสภาพแห้งพอเจอฝนหรือโคลนเข้าหน่อยก็เป็นง่อยไปทันที ผู้เชี่ยวชาญบางคันถึงกับเอ่ยปากเลยว่ามันเหมือนไม่มีเบรก

ผู้เชี่ยวชาญด้านเบรกกล่าวว่า “ผิวพื้นของวงล้อคาร์บอนไม่สม่ำเสมอเท่ากันตลอดทั้งวง และถ้าวงล้อนั้นถูกผลิตขึ้นด้วยหลาย ๆ ส่วนประกอบกันหรือมีการวางชั้นคาร์บอนซ้อนกันอย่างหลากหลาย ความแข็งแกร่งในส่วนที่สัมผัสก็เบรกก็จะแปรเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นถึงล้อคาร์บอนอาจจุดเหมือนว่าเป็นวงที่บางเท่ากันทั้งหมด มันอาจจะรับแรงได้ไม่เท่ากันตลอดทั้งวงและอาจจะสูญเสียประสิทธิภาพไปเมื่อสัมผัสกับก้ามเบรก นอกจากประสิทธิภาพการหยุที่ลดลงแล้วยังมีเรื่องน่าเป็นหนวงอีกอย่างในวงล้อคาร์บอน ในเมื่อมันไม่สามารถกระจายความร้อนไปทั่วพื้นผิวได้เหมือนวงล้ออลูมินั่ม จึงมีจุดร้อนที่สุดอยู่เป็นจุ ๆ ถ้าต้องเบรกย้ำซ้ำ ๆ กันนาน ๆ ก็จะเกิดผลเสียต่อแรงยึดเหนี่ยวของเนื้อคอมโพสิต ตามมาด้วยความตึงของซี่ลวดที่ขึงอยู่ก็จะดึงเนื้อคาร์บอนแยกออกจากกันได้ เนื้อคาร์บอนแยกก็หมายถึงวงล้ออาจพับหรือแตก ถ้าเป็นเช่นนั้นที่ความเร็วสูง ๆ คงไม่ต้องนึกละว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนักจักรยาน”

สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือมาตรฐานการสร้างเบรก ชาร์ล  เบคเกอร์  ผู้จัดการ SRAM ฝ่ายจักรยานถนนและจักรยานไตรกีฬา เขางหวังว่าผู้ผลิตต้องหามาตรฐานให้ได้แต่สแรมนั้นไม่รอคอยแล้ว ขณะนี้กำลังเร่งพัฒนาดิสค์เบรกสำหรับจักรยานเสือหมอบอยู่ เขาให้ความเห็นว่า “จากมุมมองของสแรมและกลุ่มผู้ผลิต ผมอยากจะเห็นการใช้ดิสก์เบรกในเสือหมอบในอนาคตอันใกล้นี้”

เมื่อจักรยานถนนหรือเสือหมอบที่ใช้แข่งทางเรียบยังให้ความสนในในดิสก์เบรกน้อย สนมไซโคลครอสซึ่งใช้เฟรมเสือหมอบแต่แข่งกันในลู่แข่งวิบากจึงเป็นที่ทดสอบประสิทธิภาพของมันไปโดยปริยาย สนามดังกล่าวคือสนามแข่งไซโคลครอสซึ่งมีบางค่ายจักรยานที่สนใจ เช่นสเปเชียไลส์ที่เพิ่มจักรยานไซโคลครอสจากเป็นสองคันในปีนี้จากที่ไม่มีเลยในปีที่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีต่อไป และคาดว่ายูโรไบค์หรืองานแสดงจักรยานภาคพื้นยุโรปในปีนี้ก็จะมีเสือหมอบติดดิสก์เบรกมาตั้งแสดงด้วยจำนวนมาก

ทุกสิ่งย่อมมีพัฒนาการ เราได้เห็นแนวโน้มใหม่ของเมาเท่นไบค์ที่กำลังไปได้สวยแล้วคือ 29er ถึงคราวของเสือหมอบบางล่ะที่จะมีพัฒนาการไปในทางที่ดี และน่าจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเสือหมอบทุกคันต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้

ที่มา: นิตยสาร Sports Street

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง