ss

13 มิ.ย. 2557

มาดูว่าจักรยานเสือภูเขาล้อ 26 นิ้ว, 27.5 นิ้ว และ 29 นิ้ว แตกต่างกันอย่างไร

สำหรับคุณๆ ที่เป็นมือใหม่และยังใหม่กับวงการจักรยานเสืออาจจะรู้สับสนและงงกับข้อมูลมากมายเพราะตัวเลือกที่มีมันช่างแตกต่างกันให้เลือกสรรซึ่งอันไหนล่ะ?ที่จะเป็นจักรยานที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เพราะมันมีทั้งแบบ โช้คหน้าอย่างเดียว(Hardtail), Full suspension, ขนาดล้อที่มีตั้งแต่ 26 นิ้ว, 27.5 นิ้ว และ 29 นิ้ว แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเลือกได้อย่างถูกต้องแล้วจากตัวเลือกที่หลากหลายนี้ และนี้เป็นเหตุผลที่ผมอยากจะเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นข้อมูลไว้ประกอบการเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ..


(ปล.บทความนี้ไม่ได้เขียนเองนะครับ และขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก http://mountainbikedetail.blogspot.com/2013/11/26-275-29.html)


ก่อนอื่นผมจะต้องพูดความจริงและอยากจะให้คุณๆ ผู้อ่านยอมรับความจริงเหล่านี้ว่า “มันไม่มีจักรยานเสือภูเขารุ่นไหนที่ดีที่สุดสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับทุกๆคน” เสือภูเขาแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อที่มีการออกแบบและผลิตมานั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย สิ่งแรกที่ควรจะพิจารณาก็คือ คุณจะปั่นจักรยานเพื่ออะไร? (ออกกำลังกายเฉยๆ หรือแข่งขัน) ต่อมาก็คือสถานที่ที่คุณจะปั่น (คุณจะปั่นในเมืองหรือที่ๆ ขรุขระ เป็นเขา) สุดท้ายก็คือหาจักรยานเสือภูเขาที่คุณคิดว่า มันใช่สำหรับคุณ

จักรยานเสือภูเขาขนาดล้อเท่าใดที่จะเหมาะสำหรับคุณ


จักรยานเสือภูเขาล้อ 26 นิ้ว

แต่เดิม เสือภูเขาขนาดล้อ 26 นิ้วเป็นจักรยานขนาดมาตรฐานที่สุดสำหรับเสือภูเขา มาจนถึงปี 2012 ที่เสือภูเขาขนาดล้อ 29 นิ้วได้เข้ามามีส่วนในตลาด และเริ่มปลายปี 2012- ปัจจุบันที่เสือภูเขาขนาดล้อ 27.5 นิ้วได้กลายมาเป็นรุ่นที่นิยมกันเป็นส่วนใหญ่ โดยทั่วไปแล้ว ล้อขนาด 26 นิ้ว เป็นจักรยานที่มีความเร็วมากซึ่งนักปั่นจะต้องตอบสนองต่อความเร็วนี้ได้ อย่างไรก็ตาม เสือภูเขาล้อ 26 นิ้วนี้มักจะช้าลงเมื่อใช้สปิดที่สูงขึ้น(ความเร็วปลาย), และด้วยความที่มีล้อเล็กจึงมีผลกระทบกับการกระโดด การไถล, ก้อนกรวด ซึ่งทำให้ต้องการการดูดซับแรงกระแทกที่เพิ่มมามากนี้ด้วย(ต้องใช้โช้คที่ดี) ซึ่งถ้าไม่ได้มีการออกแบบทีดีและถูกต้องก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการปั่นลดลงไป หากคุณคิดจะอัพเกรดเจ้าล้อ 26 นิ้วของคุณ คุณก็จะรู้สึกว่ามันสบายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก่อนที่จะคิดอัพเกรดผมก็อยากให้คุณพิจารณาข้อดี-ข้อเสีย ของล้อ 27.5 นิ้ว กับ 29 นิ้วด้วยเช่นกัน

ข้อดีของ เสือภูเขา 26 นิ้ว

• น้ำหนักเบากว่าล้อขนาดอื่นๆ เนื่องจากมีขนาดล้อและโช้คที่เล็กจึงทำให้น้ำหนักลดลง
• ล้อขนาดเล็กจึงทำให้มีประสิทธิภาพทางเทคนิคในการปั่นที่ดีที่ต้องใช้เวลาการตอบสนองที่รวดเร็ว(สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักปั่นมีการตัดสินใจที่หรือรีดเอาประสิทธิภาพของนักปั่นออกมา) เช่นพวกเส้นทางขรุขระ
• ใช้ได้กับนักปั่นทุกขนาดทุกรูปร่าง ในขณะที่จักรยานล้อ 29 มักจะเหมาะกับคนรูปร่างใหญ่
• ให้อัตราเร่งสูง ออกตัวได้เร็ว
• เพิ่มความเข้มแข็งหรือประสบการณ์ให้กับนักปั่นที่ต้องการขยับไปเล่นพวก Downhill หรือ Freeride (พวกผาดโผน แต่ไม่ใช้ BMX)

ข้อเสียของเสือภูเขาล้อ 26 นิ้ว

• การกระโดดได้สูง, การปีนไปตามโขดหิน หรือ รากไม้ อาจจะทำได้ไม่ดี
• ให้ความเร็วที่ช้าลงในเกียร์สูงๆ เมื่อเทียบกับจักรยานล้อใหญ่กว่า (ความเร็วปลาย)
• ต้องการการออกแบบที่ดี ในการดูดซับแรงกระแทก หรือต้องมีระบบดูดซับแรงกระแทกที่ดี เพราะไม่งั้นจะนำไปสู่การสูญเสียประสิทธิภาพในการทำความเร็วหรือเทคนิคในการปั่นจักรยาน
• ด้วยขนาดล้อที่เล็กจึงมีแรงฉุดที่ดี
• ต้องใช้แรงดันลมยางสูงกว่าล้อใหญ่


จักรยานเสือภูเขาล้อขนาด 27.5 นิ้ว

ถึงแม้ว่าในปี 2010 จักรยานเสือภูเขาขนาดล้อ 29 นิ้วจะมาแรงและความได้เปรียบเรื่องล้อที่ใหญ่ก็สร้างความได้เปรียบให้แก่นักปั่นได้ดีกว่าเสือภูเขาขนาดล้อ 26 นิ้ว อย่างไรก็ตามไม่ใช่นักปั่นทั้งหมดที่เล็งเห็นข้อดีของล้อขนาด 29 นิ้ว เพราะมันก็ยังมีข้อเสียอยู่ ถึงแม้ว่าในตลาดส่วนใหญ่จะต้องการจักรยานเสือภูเขาล้อ 29 นิ้วอยู่มาก แต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่ก็ยังคงตระหนักว่า มีนักปั่นจำนวนไม่น้อยที่ยังคงรับไม่ได้รับกับข้อเสียของเสือภูเขาล้อ 29 นิ้วนี้

ดังนั้นตั้งแต่ปลายปี 2012 จนถึงปัจจุบัน จักรยานเสือภูเขาขนาดล้อ 27.5 นิ้วจึงได้ถูกออกแบบและพัฒนาขึ้น หรือที่เราๆรู้จักกันดีในนามของ จักรยานเสือภูเขา 650b ซึ่งเป็นการพยายามนำเอาข้อดีและข้อเสียของล้อ 26 นิ้วและ 29 นิ้ว มาปรับปรุงและนำเสนอให้แก่นักปั่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าจะพูดโดยรวมก็คือ มันสามารถทำความเร็วได้ดี และปีนป่ายได้ดีเช่นกัน แต่ว่าในทางขรุขระที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็วนั้น สำหรับล้อ 27.5 นิ้วยังคงทำได้ดีในระดับปานกลาง (ยังคงเป็นรองล้อ 26 นิ้ว)

ข้อดีของเสือภูเขาล้อ 27.5 นิ้ว

• ให้ความเร็วสูงกว่า 26 นิ้ว และให้การตอบสนองได้รวดเร็วกว่าล้อ 29 นิ้ว
• ให้ความเร็วต้นได้เร็วกว่า 29 นิ้ว
• ให้แรงฉุดได้ดีกว่าล้อ 26 นิ้ว
• เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักปั่นร่างเล็กที่ต้องการรถใหญ่ และไม่ใหญ่เท่าล้อ 29 นิ้ว

ข้อเสียของเสือภูเขาล้อ 27.5 นิ้ว

• ให้ความเร็วปลายได้ไม่ดีไปกว่าล้อขนาด 29 นิ้ว แต่ก็เร็วกว่าขนาดล้อ 26 นิ้ว
• ในส่วนของความเร็วต้น หรืออัตราเร่ง จะช้ากว่า 26 นิ้ว
• ถึงแม้จะมีแรงฉุดที่ดีกว่าล้อ 26 นิ้ว แต่ก็ไม่ดีเท่ากับล้อ 29 นิ้ว

หากใครที่ยังงุนงงอยู่ว่าจะเลือกซื้อจักรยานเสือภูเขาล้อขนาดไหนดี? อ่านบทความนี้แล้วลองเปรียบเทียบดูนะครับว่าคุณต้องการจักรยานล้อขนาดไหน เพราะมันมีข้อดี และข้อเสียเหมือนๆกัน ถ้าชอบแบบไม่ผาดโผนมากก็ล้อ 26 ก็พอ มันอาจจะเร็วปรูดปร้าดแค่แรงต้น แต่แรงปลายอาจจะไม่ค่อยดีเพราะล้อเล็ก แต่เราไม่ได้เอาไปปั่นรอบโลก เอาแบบฉิวๆ อันนี้ไม่ต้องซีเรียสเรื่องล้อเลยครับสบายๆ 
แต่ถ้าขยับขึ้นมาหน่อย วันดีคืนดีนึกอยากจะลุยยกจักรยานใส่รถขับไปอุทยาน ไปรีสอร์ท หรือร่วมทริปกับพรรคพวก ต้องการแรงต้นดีและแรงปลายด้วย ก็นี่เลย ล้อ 27.5 นิ้ว เพราะมันเป็นแบบผสมผสานอยู่ระหว่างล้อเล็กสุดกับใหญ่สุด



จักรยานเสือภูเขาขนาดล้อ 29 นิ้ว

เริ่มจากปี 2010 ที่เจ้าเสือภูเขา ล้อ 29 นิ้วนี้ได้กลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่นำเสนอข้อได้เปรียบที่ดีกว่าล้อมาตรฐาน 26 นิ้วทั่วไป ด้วยล้อขนาดใหญ่กว่าจึงสามารถทำความเร็วได้มากกว่าในระดับเกียร์สูงๆ และมันยังสามารถไปได้ทุกสภาพแวดล้อมที่ล้อ 26 นิ้วยังทำได้ไม่ดีนัก เช่น ก้อนหิน รากไม้ หรือ แม้แต่ตอไม้ จึงเรียกว่าเป็นการผสมผสานข้อดีและข้อเสียของล้อขนาดเล็กอย่าง 26 นิ้วได้เป็นอย่างดี และอย่างนักปั่นทั่วไปทราบกันดีว่า เสือภูเขาล้อ 29 นิ้ว กับโช้คขนาด 100-120 มม. ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกันกับล้อ 26 นิ้ว กับโช้คขนาด 140 มม. เลยทีเดียว

ข้อดีของเสือภูเขาล้อขนาด 29 นิ้ว

• ทำความเร็วปลายได้ดี
• ด้วยความที่เป็นล้อใหญ่ จึงไปได้ทุกสภาพพื้นที่ที่ล้อ 26 นิ้วไปไม่ค่อยได้ดีนัก (นึกภาพรถ 4x4 ที่ลุยไปได้ทุกที่กับรถเก๋งที่ไปได้เฉพาะทางเรียบ และไม่ขรุขระนัก)
• ไม่ต้องการระบบดูดซับแรงกระแทกมากนัก (เมื่อเทียบจากข้างต้น โช้คขนาด 100-120 มม.กับล้อ 29 นิ้ว ประสิทธิภาพจะเทียบเท่ากับรถเล็กที่ใช้โช้คขนาด 140 มม) จึงทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน
• ใช้ได้ดีกับนักปั่นที่มีรูปร่างสูง
• มีประสิทธิภาพสำหรับการปั่นระยะไกล และให้การขับเคลื่อนที่ราบรื่นกว่า ควบคุมได้ง่ายกว่า

ข้อเสียของเสือภูเขาล้อขนาด 29 นิ้ว

• ล้อใหญ่จึงสูญเสียการควบคุมในสภาพพื้นที่ขรุขระหรือทางขรุขระที่ต้องใช้ความเร็ว (นึกภาพเราปั่นรถเล็กลงเนินที่ขรุขระเราจะสามารถควบคุมได้ดี มันจะเร็วเราก็สามารถตอบมันได้ดี แต่ถ้าเป็นรถใหญ่เราอาจจะต้องเบรกหรือทำให้รถช้าลงกว่าที่ควรจะเป็นเพื่อควบคุมมัน หรือสภาพที่เป็นมุมหักศอกหรือโค้ง ถ้ารถเล็กก็สามารถซิ่งไปได้ แต่รถใหญ่มุมเลี้ยวหรือองศามันก็ต้องมากกว่า ซึ่งรถเล็กจะได้เปรียบตรงนี้)
• ไม่เหมาะกับคนตัวเตี้ย
• มีน้ำหนักรวมที่เพิ่มขึ้น
• จะช้าในขณะที่ออกตัว
• ไม่เหมาะกับการใช้แบบ Downhill หรือ Freeride ถ้าพูดตรงๆ มันเหมาะกับ XC เป็นอย่างมากครับ

ล้อใหญ่ ก็ต้องนี้เหมาะกับนักผจญภัย แอดแวนเจอร์ ลุยไปกับเส้นทางหฤโหด มันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย แล้วบางท่านอ่านแล้วอาจจะมีคำถามว่า แล้วจะเลือกแบบไหนอีกดีระหว่างมีโช้คหน้าอย่างเดียว กับโช้คหน้า-หลัง ผมไม่ค่อยสัมผัสกับแบบ Full sus ครับ แต่เห็นฝรั่งเค้าให้ความเห็นว่า แบบฟูลซัส มันนุ่มนิ่ม ไหลลื่นได้ดี แต่มันขาดอรรถรสในการลุย คือความขาดความดิบ ไม่มันส์เท่ากับโช้คหน้าเพียงข้างเดียว สรุปว่าอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับและงบประมาณในกระเป๋าของคุณ




ที่มาบทความจาก http://mountainbikedetail.blogspot.com/2013/11/26-275-29.html

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง