เทคนิคการขี่จักรยาน BMX 2
สำหรับเทคนิคการขี่จักรยาน BMX ในตอนที่แล้ว เราได้เสนอไป 4 หัวข้อได้แก่ 1. การออกตัวจากจุดสตาร์ท 2. การขับขี่ในทางโค้ง 3. การขี่บนเนินลูกระนาด 4. การกระโดดเนินระยะไกล มาในตอนนี้เรามาต่อกันให้จบในหัวข้อที่เหลือกันครับ
5. การฝึกกระโดดเนิน
ในการฝึกฝนนั้นผู้ขับขี่ต้องผ่านการฝึกบันนี่ฮ็อปหรือการหิ้วรถทั้งสองล้อจนเกิดความเชี่ยวชาญพอสมควรก่อนนะครับ จากนั้นก็จะมาถึงบทฝึกต่อไปได้
- การสร้างเนินสำหรับฝึกกระโดด เนินอันนี้ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้เริ่มต้น หรือมือสมัครเล่นทั่ว ๆ ไป เราจะสร้างเนินที่มีความปลอดภัยก่อนนะครับ เนินที่ว่าจะมีลักษณะเป็นกองดิน รูปสี่เหลี่ยมด้านบนจะเรียบเสมอกันความยาวก็ไม่ต้องมากซักประมาณ 1-3 เมตร ความสูงก็พอสมควร ไม่มีหลุมลึก ด้านหน้าเนินมีความลาดชันพอสมควร ส่วนด้านหลังเนินทางลงควรจะมีความชันน้อยและมีทางลาดยาวเพื่อรองรับการร่อนลงของจักรยาน ฝรั่งเขาเรียกเนินแบบนี้ว่า เทเบิ้ลท็อป เมื่อได้เนินเรียบร้อยแล้วต่อไปก็จะเป็นการฝึกกระโดด
- การกระโดดจะเริ่มจากเมื่อล้อหน้ารถจักรยานวิ่งขึ้นด้านหน้าเนินจนล้อเกือบจะพันหน้าเนินก็ใช้จังหวะนี้ใช้เทคนิคบันนี่ฮ็อปช่วยหิ้วรถขึ้นโดยต้องให้ล้อหน้าอยู่สูงกว่าล้อหลังเล็กน้อย เราจะเริ่มกระโดดที่ความเร็วน้อย ๆ ก่อน โดยค่อย ๆ เพิ่มความเร็วให้ได้ระยะทางเพิ่มขึ้นไปอีกทีละนิด ๆ ไม่ต้องรีบร้อน โดยจำไว้ว่าล้อหน้าต้องเปิดสูงกว่าล้อหลังเพื่อป้องกันตอนที่เราร่อนลงหากล้อหน้าอยู่ต่ำกว่าอาจจะเกิดการกระแทกและทำให้ล้อหน้าเสียหลักจนล้มลงได้ และที่สำคัญเมื่อตอนรถเราจะตกลงสู่พื้นเราจะต้องช่วยลดการกระแทกด้วยการย่อแขนและขาของเราด้วย เมื่อเราทำการฝึกกระโดดเนินแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเกิดความชำนาญเราก็จะสามารถกระโดดข้ามไปถึงยังด้านหลังเนินได้ในที่สุด
- เมื่อเราได้ฝึกฝนการกระโดดเนินแบบง่าย ๆ ไปแล้วต่อไปการกระโดดที่เป็นเนินแยกจากกัน คือมีเนินส่งและเนินรับอยู่ห่างกัน ไม่ว่าจะเป็น 2 ลูก 3 ลูก ก็ใช้เทคนิคนี้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าตัวเนินนั้นมันจะหลอกตาทำให้เราเกิดความกลัวเนื่องจากระหว่างเนินจะไม่เรียบแต่เป็นหลุมลึกแทน ดังนั้นผู้ที่จะกระโดดเนินแบบนี้ได้ต้องอาศัยประสบการณ์และผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ถึงอย่างไรก็ตามวิธีที่ปลอดภัยสำหรับการเริ่มต้นกับเนินประเภทนี้โดยเราจะต้องสร้างเนินที่มีความห่างกันไม่มากเพื่อฝึกให้สายตาเคยชินกับเนินแบบนี้ เมื่อฝึกได้ดีแล้วก็ค่อย ๆ สร้างเนินที่มีระยะห่างจากกันมากขึ้นทีละนิด หัวใจสำคัญก็คือความเร็งของรถจะต้องเพียงพอที่จะกระโดดข้ามด้วย วิธีการกระโดดก็คือ ให้กระโดดจนพ้นเนินลูกรับไปไกล ๆ ก่อนแล้วค่อยมากะระยะให้ใกล้เข้ามานิด จนสามารถร่อนลงที่เนินลูกรับได้พอดี ซึ่งนักขี่ที่มีประสบการณ์สูง ๆ แค่มองเห็นระยะห่างของเนินก็สามารถจะรู้ได้ว่าควรจะใช้ความเร็วขนาดไหนดังนั้นการฝึกฝนทักษะนี้จึงต้องกระทำอยู่เสมอ ๆ โดยอาจะเริ่มจากการกระโดดแบบเปิดหน้าคือให้ล้อหน้าสูงกว่าล้อหลัง และที่สำคัญมาก ๆ คือใช้การย่อขากับแขนลงเพื่อช่วยรับแรงกระแทกในกรณีที่อาจจะโดดไม่ข้ามลูกรับหรือโดดข้ามเลยไปไกลกว่าลูกรับ และจำไว้ว่าล้อหน้าต้องสูงกว่าหลังอยู่เสมอ และตอนรถร่อนลงล้อหน้าจะต้องพ้นไปด้านหลังของเนินรับด้วยเพื่อห้องกันล้อหน้าไปกระแทกด้านหน้าของเนินรับ ซึ่งจะทำให้เกิดการเสียหลักล้มลงได้
เทคนิคการปั่นจักรยาน 6. การทำ Manual
คือการดึงหน้ารถให้ล้อหน้าลอยขึ้นเพื่อให้รถวิ่งผ่านลูกระนาดหรือเนินระยะใกล้โดยใช้แค่ล้อหลังเท่านั้นในการไต่ผ่านไป วิธีการฝึกก็ต้องเริ่มทำจากพื้นเรียบ ๆ ก่อนจะไปหัดทำบนเนินจริง ๆ โดยทำคล้าย ๆ การยกล้อหน้าข้ามสิ่งกีดขวาง แต่เราจะเพิ่มการถ่วงน้ำหนักไปที่ล้อหลักมากขึ้น และแขนเราต้องตึงเท่านั้น เมื่อเราดึงล้อหน้าลอยได้แล้ว จากนั้นเราจะควบคุมการยกหน้าด้วยการย่อเข่าเพื่อให้ล้อหน้าตกลง หรือการเหยียดเข่าออกจะทำให้ล้อหน้ายกสูงขึ้น และควรใช้นิ้วชี้แตะเบรกไว้ด้วยเพื่อป้องกันรถหงายท้อง เมื่อฝึกจนคิดว่าพอทำก็ลองมาทำกับเนินที่ไม่สูงและมีระยะไม่ห่างมากโดยเมื่อรถวิ่งมาถึงหน้าเนินลูกแรก ก็ดึงล้อหน้าขึ้นมา ย่อแขนเพื่อรักษาสมดุลล้อหน้า และถ่วงน้ำหนักมาด้านหลัง ย่อขาลงเล็กน้อยเมื่อล้อหน้าลอยข้ามมาถึงเนินรับลูกที่สองให้วางล้อหน้าลงที่ด้านหลังเนินให้ได้ ทุกครั้งจากนั้นเราก็ต้องฝึกฝนกับเนินที่มีระยะไกลมากขึ้นต่อไป เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการทรงตัวถ้าฝึกได้จนชำนาญจะสามารถใช้ล้อหลังล้อเดียววิ่งไต่เนินได้เลย ลองเอาไปฝึกกันดูนะครับ นักขี่บางคนอาจจะกระโดดเนินไม่เก่ง แต่ถ้าสามารถทำ Manual ได้ดีจะสามารถทำความเร็วในการแข่งขันได้ดีขึ้นเหมือนกันครับ..
เทคนิคการปั่นจักรยาน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น