ss

9 ก.ย. 2553

BMX Corner : กำเนิด BMX



          ในชั่วโมงนี้คงอดไม่ได้ที่จะต้องกล่าวถึงจักรยานสองล้อขนาด 20 นิ้ว อีกประเภทที่เคยโด่งดังในอดีตที่ต้องนี้มีทีท่าว่าอาจจะกลับมาครองใจคนรุ่นใหม่ วัยโจ๋ ต้นตำหรับแห่งความมันส์ที่ถือกำเนิดเกิดเป็นตำนานและยอดขวัญใจหนุ่มใหญ่หนุ่มเล็กอีกหลายคนในอดีตและกำลังแพร่หลายอย่างรวดเร็วในยุคนี้ เจ้าสิ่งนี้คือจักรยาน BMX Racing


เมื่อพูดถึงจักรยานที่ใช้ในการแข่งขันมีตำนานย้อนหลังกลับไปถึงจุดเริ่มต้นถึง 40 กว่าปีทีเดียว ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในรัฐแคลิฟอร์เนียยุคแรก ๆ นั้น จะนำจักรยาน (sting ray) มาดัดแปลงแต่งองค์ทรงเครื่องให้ใกล้เคียงกับรถโมโตครอสและการแข่งขันก็ยังจัดเลียนแบบให้ใกล้เคียงอีกเช่นกัน เมื่อผู้คนเริ่มนิยมกันมากขึ้น บริษัทและผู้ผลิตต่าง ๆ ได้เล็งเห็นช่องทางที่ดูแล้วคงจะไปได้สวย จึงได้เริ่มมีพัฒนากันเป็นล่ำเป็นสันมากขึ้น มีการจัดการแข่งขันเกิดขึ้นมากมาย จากรถธรรมดาก็กลายเป็นรถโมโนโช๊ค ตลอดจนได้รวบรวมผู้แข่งขันที่มากฝีมือร่วมเข้าสังกัดตั้งเป็นทีมแข่งขัน ทำให้เกิดการพัฒนารถให้มีน้ำหนักเบาและคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้น และถูกขนานนามว่า BMX หรือ Bicycle Motocross นั่นเอง


          SE racing Redline และ GT BMX และจักรยานอีกหลายยี่ห้อได้ถือกำเนิด ทำให้ก่อเกิดรถยอดนิยมมากมายและนักแข่งชื่อดังระดับตำนานอีกหลายท่านเช่น Grag Hill และ Stu Thomsen เป็นต้น นอกจากจะทำให้วงการ BMX เริ่มมีชื่อเสียงกระจายเป็นที่นิยมออกไปทางแถบยุโรปและในทวีปอื่น ๆ แล้ว ภาพยนตร์ดัง ๆ ในยุคนั้นที่มีจักรยานเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ET The Extraterrestrial หรือ ET เพื่อนรัก (ภาพยนตร์ที่มีรายได้สูงสุดตลอดกาล) BMX Bandits (หนังเรื่องแรก ๆ ของ Nicole Kidman) และ RAD เรื่องหลังนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ BMX โดยตรงทีเดียว ยิ่งช่วยกระพือกระแสคลั่งไคล้ไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีก
          ส่วนในบ้านเรา ในยุคนั้นก็ถือว่าทันสมัยไม่แพ้ชาติใด กำเนิดทีมดังเช่น Merida Pioneer และ เฟสสัน และอีกหลากหลายยี่ห้อเป็นต้น อีกทั้งนักแข่งที่จัดว่าอยู่ในระดับตำนานแชมป์ 5 สมัยหรือสตูเมืองไทยผู้โด่งดังเช่น พี่วีรยุทธ เมฆส่อน พี่ไก่ท่าพระ และ พี่เป็ดเมอร์ริด้า กับโฆษณากรีนสปอร์ตยอดฮิตสมัยนั้น โดยเฉพาะพี่ไก่ท่าพระปัจจุบันยังคงนิยมแข่งขันรถแทบทุกประเภท ทุกรายการทีเดียว
         รถจักรยานในยุคนั้น ปัจจุบันในต่างประเทศและไทยเราเองยี่ห้อดัง ๆ กลับกลายเป็นที่สนใจ ผู้คนเริ่มมองเป็นของมีคุณค่าน่าสะสมและเริ่มหายาก มีค่าตัวสูงขึ้นตามความนิยม โดยเฉพาะของที่เรียกว่า New Old School หรือ nos หรือของใหม่เก่าเก็บนั่นเอง


          เป็นที่รู้กันว่าเราจะแบ่งช่วงยุคต่าง ๆ ของ BMX ไปเป็นช่วงเช่นว่า เราจะนับย้อนหลังก่อนปี 1989 ลงไปจะเรียกว่า ยุค Old school และปี 1990 ขึ้นมาเป็นยุค Mid School และปี 2000 ขึ้นมาอีกเป็นยุค New School รถแต่ละยุคก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันไป เปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตากันไปบ้างพอสมควรตามกาลเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปตามความจำเป็น ทั้งวัสดุและเทคโนโลยีการผลิต ตลอดจนฝีมือเทคนิคการขับขี่และการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามามีบทบาทสำคัญ ใช้ส่งเสริมสมรรถนะของนักกีฬาให้ได้ประสบความสำเร็จจากการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่ง ณ ปัจจุบันการพัฒนาก้าวกันไปไกลอย่างแทบมองไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว
          ต้องยอมรับว่าช่วงเวลานี้วงการ BMX Racing ของไทยเริ่มที่จะกลับมามีสีสันขึ้นอีกครั้ง หลังจากเคยโด่งดังแบบสุด ๆ ในช่วงเวลาเมื่อกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งในต่างประเทศนั้นยังมีการแข่งขันและการพัฒนาทั้งฝีมือ รถ และสนามกันอย่างต่อเนื่อง ผิดจากบ้านเราที่มีแต่ BMX Freestyle
          ในยุคต่อมาจาก BMX racing ที่มี Bob Haro ผู้ริเริ่ม Mike Buff และ RL Osborne กับ BMX Tric Team ที่เคยทำให้วงการ BMX Freestyle โด่งดังไปทั่วโลกในอดีต ก่อนจะขาลงและกลับมาฮิตกันอีกครั้งก่อนหน้านี้หลายปีทีเดียว โดยผู้ริเริ่มทำให้วงการ BMX มาฮิตอีกครั้งในหมู่วัยรุ่นชายและขาเก๋าที่ยังคงเล่นจักรยาน BMX กันอย่างเหนียวแน่นเสียเป็นส่วนใหญ่นั้น คือ กระทาชายนาย Mat Hoffman ที่ขี่จักรยานสไตล์แบบโลดโผนโดนใจวัยโจ๋ใจกล้าขาแรงทั้งหลายที่ต้องการสิ่งแปลกใหม่ หนีความจำเจแบบเก่า ๆ จนแตกหน่อออกไปเป็นกีฬาอีกหลายประเภทเช่น
- BMX Street ที่จะเล่นท่าวาดลวดลายกันตามท้องถนนผ่านสิ่งกีดขวางต่าง ๆ และมีแข่งขันกันในแบบโชว์ลีลาบนสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่เซ็ตไว้หรือที่เรียกว่า Park และการแข่งขันอีกประเภทที่โชว์ลวดลายท่วงท่าที่สวยงามกันบนอากาศกับกระดานโค้งแบบสองด้านหรือ Vert-Halfpipe


- BMX Flatland อีกประเภทที่แข่งขันกันบนพื้นราบลานกว้าง มีท่วงท่าที่เร้าใจสวยงาม


- BMX Dirt Jump การโชว์ลีลาเหินบนอากาศที่ตื่นเต้นเร้าใจไม่แพ้ประเภทใด โดยส่วนใหญ่ในต่างประเทศมักแข่งขันหรือโชว์ควบคู่กันไปกับการแข่ง BMX Racing จนเป็นที่มาของกีฬาท้าทายระดับโลก X-GEMES ที่การแข่งขันมันส์สะใจทุกครั้งที่ได้ชม และเป็นที่น่ายินดีที่น้อง ๆ หนุ่ม ๆ ชาวไทยของเราที่ตอนนี้ยังคงพัฒนากับไปไกลจนไปสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังถึงในระดับโลกแล้วทีเดียว


          ควันไฟเริ่มครุกกรุ่นขึ้นหลังจาก BMX Racing ถูกปลูกกระแสให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการถูกบรรจุอยู่ในการแข่งขันระดับโลกมหกรรมกีฬา Olympic และเป็นกีฬาสาธิตที่จัดแข่งขันในกีฬา Olympic ที่กรุงปักกิ่งที่ผ่านมาโดยเฉพาะในแถบเอเชียถือเป็นที่ฮือฮาและตื่นตัวกันเป็นอย่างมาก
          สิ่งที่ขาดไม่ได้ของการแข่งขัน BMX Racing ก็คือ สนามแข่งขันต้องมีจุดสตาร์ท เนินระดับต่าง ๆ โค้งแบงค์และลูกระนาดขนาดต่าง ๆ ซึ่งสนามยังคงมีไม่มากนักแทบจะนับได้ ในบ้านเรานอกจากจะมีสนามแข่งขันหลักที่เขาเขียวแล้ว อีกสนามที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือสนามที่ จ.สุรินทร์ และยังมีสนามซ้อมของ อ.หน่อย มีศักดิ์ สนามบางแค สนามศรีบัวบาน สนาม อ.อนุชิต สระบุรี และสนามวัดศรีบัวบาน สุพรรณ เป็นแหล่งรวบรวมพบปะและออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันอีกรูปแบบหนึ่ง สำหรับชาว BMX โดยหวังไว้วาคงจะเริ่มเกิดมีสนามขึ้นมาเรื่อย ๆ ในหลาย ๆ พื้นที่เพื่อให้ได้พัฒนาฝีมือและออกกำลังกายสนุกสนานกันและถือเป็นโอกาสอันดีที่มีผู้นำเข้าจักรยาน BMX Racing สายพันธุ์แข่งอันดุดัน ทรงพลังเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเช่น SE Racing และทีมนักแข่งฝีมือเยี่ยม บริษัท Jump Sport จักรยาน RED LINE โดยบริษัท TCA และ GT BMX โดยบริษัท World Wide Connection ที่จัดได้ว่ามีทีมแข่งมากที่สุดในขณะนี้ทีเดียว


แล้วคุณล่ะ ถ้ามีใจรักและพร้อมที่จะสนุกท้าทายกับกีฬาประเภทนี้ จะรอช้าอยู่ใย !!!.






(ที่มา: นิตยสาร Race Bicycle)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความจักรยานที่เกี่ยวข้อง