เทคโนโลยีที่น่าสนใจของ Boxxer รุ่นใหม่อยู่ที่ระบบ Damping ที่เป็นวาล็วสองจังหวะสามารถตั้งรีบาล์วและคอมเพรสชั่น ได้ทั้งจังหวะที่โช๊คยุบตัวเยอะ ๆ และโช้คยุบตัวน้อย ๆ รวมถึงเทคโนโลยี Solo Air หลังจากผลิต Boxxer รุ่นใหม่ออกจำหน่ายในปี 2009 -2010 แล้วพอมาในปี 2010-2011 Rockshox ได้มีการปรับปรุงให้โช๊คมีประสิทธิภาพสูงขึ้นซึ่งเราจะเจาะลึกรายละเอียดตรงส่วนนี้มาให้ได้ทราบกัน
ในส่วนของระบบ Solo air นั้น Boxxer World Cup 2010 ที่ผลิตออกมานั้นจะใช้แกนลูกสูบที่ยาวและ ใช้เทคโนโลยี Negative Air Chamber แบบลอยตัวซึ่งตรงจุดนี้ทำให้เกิดปัญหาความฝืดของโช๊คที่ไม่ลื่นเท่าที่ควร ดังนั้น Boxxer World Cup 2011 จึงได้ออกแบบให้ก้านลูกสูบที่ขนาดสั้นลง เพื่อลดความฝืดของการเคลื่อนที่ของลูกสูบ นอกจากนั้นยังใช้ Negative Air Chamber แบบล็อกอยู่กับที่ แต่ปัญหาที่ตามมาของการใช้ก้านลูกสูบที่สั้นทำให้ปริมาตรห้องลมที่ขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งจะมีผลทำให้อัตราความแข็งของ Air Spring มีค่าต่ำลงดังนั้น Boxxer World Cup 2011 จึงได้มีการเสริมวาล์วกั้นลมด้านบนเพื่อให้ปริมาตราห้องลมมีขนาดเท่านั้น เพื่อให้ได้อัตราความแข็งของ Air Spring มีค่าแบบก้าวหน้า (Progressive) กล่าวคือขี่รูดเล็ก ๆ โช๊คก็เก็บแรงสั่นสะเทือนได้ดี แต่ช่วงกระโจนลงมาที่สูงโช๊คก็ยังสามารถเก็บแรงกระแทกอันมหาศาลได้อยู่ นอกจากนั้น Rockshox ยังได้ปรับปรุงลูกสูบของ Boxxer World Cup 2011 ให้มีวาล์วลมพิเศษให้ปล่อยลมจากห้อง Negative Air Spring แบบเดิม
นอกจากนั้น Rockshox ยังได้ทำการปรับปรุงวาล์ว Rebound ใหม่เพื่อลดแรงอัดจากคอมเพรสชั่นทำให้โช๊คทำงานได้ดีขึ้นนอกจะมีการปรับปรุงภายใน Boxxer World Cup 2011 ยังได้มีการเปลี่ยนปุ่มปรับด้านนอกใหม่ให้สามารถปรับตั้งได้ง่ายขึ้น ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหา Boxxer World Cup 2011 ก็เป็นโช๊คที่น่าสนใจเพราะจากคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่อัดแน่นได้รับการพัฒนามาจากสนามแข่ง
บทความที่เกี่ยวข้อง :
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น