การเลือกซื้อและปรับแต่งจักรยาน BMX RACING
การเลือกซื้อก็ไม่แตกต่างกับจักรยานประเภทอื่น ๆ ครับ คือจะมีหลัก ๆ ก็คือต้องดูที่ขนาดให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่โดยจักรยาน BMX จะมีไซส์ต่าง ๆ ให้เลือกมากมายเช่นเดียวกัน ดังนั้นก่อนจะซื้อก็ควรต้องรู้สักนิดว่าคนที่จะขี่ควรจะใช้รถขนาดเท่าใด โดยส่วนใหญ่แล้วขนาดจะถูกระบุเป็นตัวเลขของขนาดความยาวตัวท่อนบนหรือ Top tube ซึ่งมันจะสัมพันธ์กับส่วนสูงและอายุของผู้ขับขี่เช่นเด็ก ๆ อายุ 5-8 ขวบควรจะใช้รถที่มี Top tube ประมาณ 16 นิ้ว ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาอีกหน่อยก็ต้องไซส์ที่ใหญ่ขึ้นมาเช่น 8-10 ขวบหรือความสูงประมาณ 125 -130 cm ก็ต้องมี top tube ประมาณ 18 นิ้ว เด็กอายุ 10-12 ขวบหรือมีส่วนสูงประมาณ 19 นิ้วเป็นต้น ส่วนเด็กโต ๆ อายุตั้งแต่ 14-15 ปี ส่วนสูงประมาณ 155-165 cm จะสามารถเริ่มใช้รถที่เป็นไซส์ที่เป็นมาตรฐานแข่งขันที่มีขนาด top tube ตั้งแต่ 20-21 นิ้วได้แล้ว ซึ่งขนาดของไซส์รถจักรยาน BMX ของแต่ละบริษัทแต่ละยี่ห้อก็จะมีขนาดมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไปบ้างแล้วแต่การออกแบบผลิต แต่ขนาดไซส์จะค่อนข้างใกล้เคียงกัน อันนี้ก็ดูไว้เป็นแนวทางคร่าว ๆ ได้แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นขนาดนั้น ขนาดนี้ โดยอาจจะสอบถามจากร้านตัวแทนจำหน่ายดูก็ได้ครับ ถ้าจะให้ดีผู้ขับขี่ต้องลองขี่เองดูเลยครับ เหมาะกับตัวเองหรือป่าว น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดครับ หวังว่าทุกท่านคงพอจะได้แนวทางในการเลือกซื้อรถจักรยาน BMX ให้กับบุตรหลานหรือตัวท่านเองบ้างแล้วนะครับ
การปรับเซ็ทรถจักรยาน บีเอ็มเอ็กซ์ (BMX)
มีรถแล้วก็ต้องมีการปรับแต่งกันอีกนิดเพื่อการบังคับควบคุมรถที่ดี โดยมีส่วนหลัก ๆ ที่ต้องปรับแต่งอยู่ไม่กี่อย่าง แต่ว่าก็ต้องมาปรับแต่งให้เป็นไปตามหลักการเพื่อผู้ขับขี่จะสามารถบังคับรถได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
1.แฮนด์เดิลบาร์ อันนี้จะเป็นส่วนควบคุมหลัก ๆ ของเจ้าจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) ก็ว่าได้ การปรับแต่จะมีผลต่อการบังคับรถมาก โดยการปรับตำแหน่งของแฮนด์นี้ส่วนใหญ่เราจะปรับโดยให้อาศาความเอียงอยู่ในระนาบเดียวกับตะเกียบหน้ารถไม่เอนไปด้านหน้าหรือหลังมากเกินไป ส่วนใครจะใช้แฮนด์สูง หรือกว้างเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่สไตล์การขับขี่ของแต่ละคน บางคนอาจจะชอบแฮนด์กว้าง ๆ บางคนชอบแฮนด์ที่มีปลายยกสูง อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดและความชอบส่วนตัวของแต่ละคนครับ ของแบบนี้ต้องลองใช้เองถึงจะรู้
2.มือเบรก รถบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) ส่วนใหญ่จะนิยามใช้แค่เบรกหลังเพียงอย่างเดียว ดังนั้นการปรับตำแหน่งของมือเบรกก็ทำได้ไม่ยาก โดยส่วนใหญ่ตำแหน่งจะอยู่ติดกับปลอกมือจับแฮนด์ด้านที่เราถนัด และตัวมือเบรกทำมุม 30-45 องศากับพื้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX)ในการแข่งขันนั้นจะใช้การยืนขี่เป็นหลัก การปรับมือเบรกที่ดีจะทำให้ลดความเมื่อยล้าของข้อมือได้ และทำให้มีแรงกดต่อล้อได้ดียิ่งขึ้น
3.อานนั่ง อย่างที่รู้ ๆ กันว่าบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่ง จะใช้การยืนเป็นหลัก จึงแทบไม่มีช่วงเวลาที่จะให้ผู้ขับขี่ได้นั่งพักเลย รวมทั้งมีการกระโดดเนินเป็นลูกระนาด อีกหลากหลายอุปสรรค ตำแหน่งของอานนั่งจึงต้องปรับให้อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำมาก เพื่อไม่ให้ความสูงของอานมาเกะกะตัวผู้ขี่ในขณะที่กระโดดเนิน หรือปั่นรถบนลูกระนาด แต่ไม่ต้องถึงขนาดถอดออกไปเลยนะครับเพราะที่จริงมันก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้างเช่น เอาไว้นั่งพักตอนที่เราเมื่อยล้าจากการฝึกซ้อม หรือรอเวลาที่จะทำการแข่งขัน
4.บันได สมัยก่อนบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX)จะใช้บันไดแบบที่มีฟันแหลมคนเพื่อให้สามารถเกาะติดรองเท้าได้ดี แต่มาถึงยุคปัจจุบันรูปแบบสนามเปลี่ยนแปลงไปจากสนามที่ทางวิ่งมีแต่ดินหินที่ค่อนข้างลื่นกลายมาเป็นสนามที่มีความหนึบแน่นของผิวสนาม และยังมีแบงค์รับบริเวณทางโค้งขนาดใหญ่ สามารถรองรับความเร็วของรถได้โดยที่ผู้ขับขี่แทบจะไม่ต้องเอาเท้าออกจากบันไดเลย ปัจจุบันนี้จึงมีผู้ขับขี่ส่วนใหญ่จะนิยมใช้บันไดแบบคลิปเลสแบบเดียวกับรถเสือภูเขาแทน ซึ่งมีข้อดีมากกว่าเช่นรองเท้าที่ใช้แบบคลิปเลสจะล็อคเข้ากันกับบันไดอย่างแน่นหนาไม่หลุดออกมาอย่างง่าย ๆ และบันไดแบบนี้ยังสามารถสร้างกำลังในการปั่นรถได้มากกว่า คือทั้งกดและดึงบันไดได้ดีกว่าบันไดแบบธรรมดา ที่ไม่มีระบบล็อคแต่การจะเลือกใช้บันใดแบบไหนนั้นก็แล้วแต่ความถนัดและความชำนาญในการใช้ของแต่ละคนครับ ไม่ถือว่าผิดกติกาแต่อย่างใดสำหรับมือใหม่ มือสมัครเล่นก็อาจจะเลือกใช้บันไดแบบธรรมดาไปก่อนก็ได้ แล้วค่อย ๆ มาฝึกใช้แบบคลิปเลสทีหลังก็ยังได้ครับ
5.ใบจานหน้าและหลัง สนามแข่งจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) แต่ละสนามนั้นต่างก็มีความยาวไม่เท่ากัน ดังนั้นการปรับแต่งเพื่อให้รถมีรอบการปั่นที่เพียงพอสามารถทำความเร็วได้เป็นอย่างดี ก็ควรต้องมีการปรับแต่ขนาดใบจานหน้าและหลังอย่างเหมาะสมด้วย ขนาดใบจานก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบหลายขนาด แต่ส่วนใหญ่ใบหน้ามาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 42T – 46T ส่วนใบจานหลังนั้นก็สามารถเปลี่ยนได้ง่าย ๆ กว่าสมัยก่อนเพราะปัจจุบันดุมรถจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) ที่เป็นรถระดับแข่งขันรุ่นสูง ๆ จะเป็นแบบแคสเซ็ท ซึ่งเป็นดุมล้อที่มีระบบฟรีอยู่ในดุมล้อแทนที่จะเป็นตัวฟรีแยกแบบเก่า ซึ่งทำให้เราสามารถถอดใบจานเฟืองหลังมาเปลี่ยนขนาดของฟันได้เหมือนพวกรถมอเตอร์ไซค์เลยครับ ส่วนขนาดก็มีมากมายตั้งแต่ 12T-18T สำหรับวิธีการเซ็ทส่วนนี้ผู้ขับขี่ จะต้องเรียนรู้และสังเกตด้วยตัวเองว่าตนเองปั่นขาจานเร็วจนรอบของจานมันหมดช้าหรือเร็ว ในแต่ละช่วงของสนามแข่งขัน การปั่นสร้างความเร็วในแต่ละโค้ง หรือทางตรงได้ความเร็วมากน้อยพอที่จะจั๊มป์ผ่านเนินได้หรือไม่แล้วจึงจะเอาข้อมูลเหล่านี้มาลดหรือเพิ่มที่ใบจาน แต่ละสนามที่แตกต่างกันนักขี่แต่ละคนเขาใช้อัตราทดของใบหน้าหลังกันขนาดไหน แล้วลองปรับดูให้เข้ากับสไตล์การปั่นของเรานะครับ
6.ลมยาง ความแข็งอ่อนของลมยางก็มีผลต่อการขับขี่ครับ นักขี่ส่วนใหญ่จะใช้ลมที่ค่อยข้างไปทางแข็งมากกว่าอ่อนครับเพราะการที่เราใช้ลมยางแข็งจะทำให้การออกแรงปั่นจักรยานเบากว่าและรถจะพุ่งไปเร็วกว่าลมยางอ่อน แต่ข้อเสียของยางแข็งก็มีคือจะทำให้มีการสั่นสะเทือนมากกว่าเวลาเจอทางขรุขระ เวลาเลี้ยวโค้งอาจจะลื่นล้มได้ง่ายกว่า จึงต้องระมัดระวังมากขึ้นสักหน่อยสำหรับความแข็งของยางนั้นก็จะใช้กันอยู่ประมาณ 30-35 ปอนด์ (ยางขนาด 20 x 2.0) อาจจะมากน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของยางและน้ำหนักตัวของผู้ขับขี่ด้วยครับ
ในบทความต่อไปเราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของอุปกรณ์ในการป้องกันตัวก่อนขี่จักรยานบีเอ็มเอ็กซ์ (BMX) กันครับ โปรดรอติดตามครับ..
บทความที่เกี่ยวข้อง :
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น