ทุก ๆ ปีจักรยานเสือภูเขาได้ถูกพัฒนาทั้งในด้านประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับใช้ให้รองรับได้กับทุกสถานการณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Cannondale JekyII ตัวใหม่ล่าสุดที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดนวัตกรรมของวงการ และอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ที่จะตามมา
จักรยานเสือภูเขาทั้งหลายโดยทั่ว ๆ ไป ต่างก็มีความสามารถในการขี่ได้ในแบจะสุกสภาพของพื้นที่ อย่างในด้านการทำงานของโช้คนั้น จักรยานเสือภูเขาทั้งหลายก็จะทำได้ตั้งแต่ 5.5 ถึง 6.3 นิ้ว ทั้งช่วงหน้าและหลังในทางเรียบ และในการไต่ขึ้นที่ลาดชันอย่างค่อนข้างมีประสิทธิภาพ โดยยังผ่อนแรงให้เราในขาลง แต่ข้อจำกัดต่าง ๆ ในการออกแบบ และเทคโนโลยีของโช้คมันย่อมมีทางออกใหม่ของการผสมผสานนวัตกรรม เพื่อให้ได้จักรยานเสือภูเขาที่สามารถไต่ขึ้นทางชันได้อย่างพวก Cross Country แล้วก็สามารถดิ่งลงทางชั้นแบบฮาร์ดคอร์เหมือนพวกจักรยานดาวน์ฮิลล์
ด้วยการทุ่มทุนอย่างมหาศาลเพื่อการค้นคว้าวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ Cannondale จึงครองความเป็นผู้นำของวงการมาโดยตลอด โดยย้อนไปเมื่อประมาณสองปีก่อน Cannondale ได้เริ่มโครงการเสือภูเขาประเภท All-Mountain เพื่อที่จะสร้างบางอย่างที่แตกต่าง “เราอยากจะได้จักรยานสักคัน ที่เป็นเหมือนสองสิ่งในร่างเดียว แรงบันดาลใจนี้ ที่จริงเคยเป็นสิ่งที่ไม่มีใครยอมรับว่ามันจะทำได้มาก่อนด้วยซ้ำ” Murray Washburn ผู้อำนวยการการตลาดสากลของ Cannondale ได้กล่าวถึงที่มาของ JekyII พร้อมยังบอกอีกว่า “เราต้องการจะขี่เสือภูเขาที่มีช่วงยุบน้อย ๆ แบบรถครอสฯ ในชุดป้องกันเต็มรูปแบบทั้งหมวก Full Face และชุดเกราะแบบเต็มตัว” และนั้นก็คือจุดกำเนิดของเจ้า JekyII สุดยอดนวัตกรรม
JekyII and Hyde สองร่างในหนึ่งเดียว
การจะสร้างจักรยานที่ตะลุยไปได้ทุกพื้นที่โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมากนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก Cannondale รู้ดีว่าโช้คหลังแบบทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ดังนั้นจึงได้ร่วมมือกับ Fox เพื่อที่จะสร้าง Fox DYAD RT2 ในขณะเดียวกันทั้งโช้คและตัวถังก็ได้ถูกออกแบบเพื่อที่สัดส่วนของการเคลื่อนไหวของตัวโช้คจะได้สัมพันธ์กันอย่างเต็มที่ในสภาวะที่โช้คยุบตัวลง
DYAD RT2 เป็นโช้คที่ทำงานเสมือนกับมีโช้คสองตัว แต่ละส่วนจะให้การเคลื่อนไหวที่ต่างกันทั้งอัตราการยุบตัว และยืด ซึ่งสิ่งที่ว่านี้ได้รวมกันอยู่ภายใจตัวโช้คเพียงหนึ่งเดียว ว่ากันโดยทฤษฎีแล้วในบางจุดเจ้า DYAD RT2 นี้ก็มีความคล้ายกับค่ายอื่น ๆ ในเรื่องการปรับสมดุลของการเคลื่อนตัว แต่ในข้อนี้ ทาง Cannondale ได้แย้งว่า เทคโนโลยีที่ทาง Fox คิดค้นขึ้นมานั้น สามารถแยกการทำงานดังกล่าวของโช้คแบบ Two in One ออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด และได้จดสิทธิบัตรเอาไว้แล้วด้วย ภายในโช้คตัวดึงที่แข็งแกร่งซึ่งติดตั้งด้วยวงจรควบคุมการยุบตัว โดยมี Positive Air Chambers สองห้อง ซึ่งอันหนึ่งมีขนาดใหญ่ กว่าอีกอัน พร้อมทั้งมี Negative Air Chanbers เพียงหนึ่งห้องทั้งหมดนี้เชื่อมติดกันกับแกนหลังซึ่งติดตั้งวาวล์ ที่ให้ผู้ขี่สามารถควบคุมสลับเปลี่ยนตามสภาพการขี่
ความสะดวกง่ายดายในการเปลี่ยนโหมดควบคุมนี้มาจากเจ้า Bar-mounted lever ที่ทำให้ผู้ขี่หลุดพ้นจากข้อจำกัด ที่ทาง Cannondale เรียกมันว่า “ความสามารถในการปรับระดับความสูงเชิงเรขาคณิต (Altude Adjustable Geometry) โดยที่โหมดช่วงยกตัวได้ถูกออกแบบมาเพื่อการไต่ขึ้นทางชันนั้นใช้ระยะการเคลื่อนตัวเพียง 90 มม. (3.5 นิ้ว) เท่านั้น ด้วยอัตราการสปริงตัวที่เพิ่มขึ้น cross-country โดยที่ Postive Air Chanbers เพียงห้องเดียวที่ถูกใช้ และ sag จะถูกตัดเหลือ 40% ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในสภาวะการไต่ขึ้น แต่ในช่วงการขับขี่ Downhill เราก็เปลี่ยนมาเลือกโหมด Flow ซึ่ง Positive Air Chanbers ก็จะทำงานทั้งสองส่วนช่วยปรับสมดุลให้ด้านหน้ารถยกสูงขึ้น ขณะที่ด้านท้ายต่ำลง ส่งผลให้การ Dowhill เป็นไปอย่างมั่นใจ